Interviews
เปิดใจ ดร.ลักขณา อุปนายก สนจ. หญิงแกร่ง แนะน้องเถ้าแก่น้อยยึดหลัก Touchless, Cashless และ Selfless สู้โควิด-19
เมื่อเอ่ยนาม “ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน” มั่นใจว่าคนในแวดวงธุรกิจทั่วฟ้าเมืองไทยไม่มีใครไม่รู้จัก “พี่ยิ้ง” ซึ่งในช่วงขวบปีที่ผ่านมาขันอาสาเข้ามาบริหารสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สนจ.) ในตำแหน่งอุปนายกหญิงแกร่ง ด้วยความโลดโผนโจนทะยานเจนจัดในโลกการตลาดมากว่า 40 ปี และฝากผลงานไว้กับบริษัทน้อยใหญ่มานับไม่ถ้วน ทำให้วันนี้แม้ชีวิตจะก้าวผ่านหลักชัยวัยเกษียณไปแล้ว แต่ความแอคทีฟและประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของ ดร.ลักขณา ยังคงเป็นประโยชน์ส่งต่อมาถึงน้องจุฬาฯ รุ่นต่อมา แปรเปลี่ยนเป็นแรงบันดาลใจให้เหล่าผู้ประกอบการรุ่นหลังให้ยังคงยืนหนึ่งฝ่าวิกฤติสู้โควิด-19 ครั้งนี้ไปให้ได้ด้วยหลักสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ Touchless, Cashless และ Selfless The Sharpener นำบทสัมภาษณ์กลางรายการ Live Talk “ตั้งวงเล่า เหลาความคิด” เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.63 ที่พี่ยิ้งให้เกียรติมาแชร์ประสบการณ์ร่วมเหลาความคิดให้กับ “ครูกรีน AF” เจ้าของ The Modern Melody สถาบันสอนดนตรีและพัฒนาบุคลิกภาพ มาฝากกัน โควิด-19 ช่วยให้ค้นพบความเก่งในโลกออนไลน์ ดร.ลักขณา เปิดฉากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ช่วงกักตัวที่ผ่านมา ย้ำว่าโควิด-19 เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตและรูปแบบการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง โดยยกตัวอย่างประสบการณ์ตรงจากการประชุมกรรมการบริษัทหลายแห่งจากที่เคยต้องเดินทางไปที่ออฟฟิศ จำต้องเปลี่ยนมาประชุมออนไลน์แทน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการ […]
กรีน AF ผ่าทางรอดให้ The Modern Melody ด้วย Service Mind
สถาบันสอนดนตรีถือเป็นสถานศึกษาที่ใครหลายคนมักลืมไปว่าที่แห่งนี้ก็แหล่งประสิทธิ์ประสาททักษะวิชาแขงหนึ่ง เฉกเช่นเดียวกับโรงเรียนเสริมสร้างทักษะเฉพาะทาง ที่นี่จึงเป็นทั้งแหล่งบ่มพรแสวงและต่อเติมพรสวรรค์ให้กับคนทุกเพศทุกวัยที่สนใจในศาสตร์นี้ โดยเฉพาะค่านิยมของคนสมัยใหม่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาที่พ่อแม่ผู้ปกครองนิยมมองหาทักษะเสริมความรู้ด้านวิชาการให้กับบุตรหลานให้มีความสามารถพิเศษติดตัวเพิ่มขึ้นทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งเล่นดนตรี เพิ่มคุณสมบัติเด่นเฉพาะตัวควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อสร้างความมั่นใจในทุกย่างก้าว ใช้เป็นแต้มต่อในชีวิตของคนยุคใหม่ ด้วยเหตุนี้เอง “The Modern Melody” สถาบันสอนดนตรีและพัฒนาบุคลิกภาพ ของ ครูกรีน-นิธิวัชร์ ตันติภัสร์สิริ หรือ กรีน AF7 อดีต Law Chula นักล่าฝันผู้มากความสามารถ จึงผันตัวเองมาเป็นเจ้าของธุรกิจสอนดนตรีและพัฒนาบุคลิกภาพ ซึ่งครูกรีนได้ใช้ความรู้ความสามารถรอบด้านบวกกับประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมานับสิบปี พัฒนาหลักสูตรถ่ายทอดทักษะด้านดนตรีและการพัฒนาบุคลิกภาพให้กับนักเรียนของเขา ซึ่งมีตั้งแต่เด็กประถม มัธยม มหาวิทยาลัย ผู้ใหญ่วัยทำงาน เรื่อยขึ้นไปจนถึงผู้บริหารระดับสูงขององค์กร จนกระทั่งวิกฤติโควิด-19 มาเยือน ธุรกิจที่จำเป็นต้องอาศัยการพูดคุย การเปล่งเสียง การสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด อย่างสถาบันสอนดนตรีและพัฒนาบุคลิกภาพ จึงจัดอยู่เป็นหนึ่งในลิสต์ที่รัฐบาลออกประกาศให้ต้องหยุดให้บริการลงชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งแน่นอนว่า The Modern Melody ก็ดำเนินตามมาตรการของรัฐอย่างเคร่งครัดเช่นกัน แต่ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของสถาบันยังคงดำเนินต่อไปไม่ได้หยุดตามประกาศใด ๆ ของรัฐบาล ทั้งค่าเช่าสถานที่ที่ยังต้องจ่ายบางส่วน ครูสอนร้องเพลง ครูสอนดนตรี อีกหลายชีวิตที่เขายังต้องดูแล ทำให้ครูกรีนต้องคิดหากลยุทธ์พลิกสถานการณ์กลับมายืนหนึ่งเหนือวิกฤติให้ได้ “แม้เราจะเตรียมตัวเรื่องการสอนออนไลน์มาบ้างก่อนที่รัฐบาลจะออกประกาศให้ปิดชั่วคราว […]
“เชฟจ๊อบ กัณฑ์พิชญ์” พลิกวิกฤติ พา FRIDAY รอดโควิด
หากจะกล่าวถึงแลนด์มาร์คแห่งใหม่กลางสัตหีบ เมืองตากอากาศยอดฮิตของเหล่าฮิปสเตอร์ ในช่วงปีที่ผ่านมา รับรองว่า “FRIDAY” Café & Restaurant ต้องเป็นหนึ่งในหมุดหมายที่ไม่อาจพลาดอย่างแน่นอน ด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหลของคอนเซ็ปต์ “FRIDAY EVERYDAY” ที่อยากให้ทุกวันของคุณเป็นวันศุกร์ ทำให้ผู้ที่เคยแวะเวียนมานั่งรับประทานอาหาร กินขนมอร่อย ๆ ปล่อยใจชิล ๆ ไปกับการนั่งชากาแฟของที่นี่ จำต้องหวนกลับมากอบโกยช่วงเวลาแห่งความสุขกันอีกหลายต่อหลายครั้ง แต่พลันเมื่อเกิดวิกฤติ COVID-19 ทุกสิ่งที่ FRIDAY จำต้องหยุดชะงักลงทันที “เชฟจ๊อบ” กัณฑ์พิชญ์ ศิริสุทธิวรนันท์ เจ้าของ “FRIDAY” เล่าให้เราฟังในรายการ “ตั้งวงเล่า เหลาความคิด” ทางแฟนเพจ The Sharpener และ Chula Alumni ถึงสถานการณ์ของ FRIDAY ช่วง 2 – 3 เดือนที่วิกฤติ COVID-19 มาเยือนคาเฟ่สุดชิคแห่งนี้ ธุรกิจของเขาได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับธุรกิจใหญ่น้อยในเมืองท่องเที่ยว โดยเริ่มมีสัญญานให้เห็นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2562 เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนลดน้อยลง ส่งผลให้ยอดขายของร้านลดลงตามด้วยไปค่อนข้างมาก จนเมื่อรัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์ประเทศ ร้าน […]
SDGs
“เตือนแล้วนะ! อย่าซื้อ Ivermectin มากินเอง”
ร่วม 2 ปีแล้วที่ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด19 ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นวิกฤติการณ์ใหญ่ในโลกศตวรรษที่ 21 ที่มวลมนุษยชาติยังคงพยายามต่อสู้เพื่อเอาชนะเชื้อร้ายนี้ ทั้งคิดค้นวัคซีนเพื่อมาป้องกันและสรรหายาหลากชนิดมาใช้เพื่อลดการสูญเสียชีวิตผู้ป่วย เราจึงได้เห็นความพยายามของหลายประเทศมุ่งใช้ทุกสรรพกำลังที่มีอยู่ค้นคว้าวิจัยให้ได้วัคซีนและยา หรือนำยาที่เคยมีอยู่แล้วนำกลับมาศึกษาค้นคว้าใหม่ รวมถึงการเลือกใช้ยาที่ใช้ได้ผลดีในสัตว์มาใช้กับมนุษย์อย่าง “Ivermectin” “Ivermectin” เป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการสัตวแพทย์ โดยประโยชน์หลักของยาตัวนี้สามารถใช้กำจัดปรสิตได้ทั้งภายในและภายนอกตัวสัตว์ สัตวแพทย์จะมีวิธีใช้ยานี้ในขนาดที่แตกต่างกันออกไป อย่างการรักษาโรคติดเชื้อพยาธิหนอนหัวใจ สัตวแพทย์จะเลือกใช้ยาในขนาดที่ต่ำที่สุด ส่วนโรคไรขี้เรื้อนแห้ง ไรในหู โรคติดเชื้อพยาธิตัวกลมและการกำจัดเห็บปรสิตของสัตว์บางชนิดอย่างสุนัขและแมวมักใช้ยาขนาดกลาง แต่ถ้าสัตว์เป็นโรคไรขี้เรื้อนเปียกนั้นก็ต้องใช้ยาในขนาดที่สูงขึ้น นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ยาควรทราบคือ Ivermectin เป็นยาที่ขอขึ้นทะเบียนเพื่อใช้กับปศุสัตว์ในพวกสุกร โค กระบือ จึงมีความข้นสูงมาก การนำมาใช้ในสัตว์เลี้ยงจึงจัดเป็นการใช้แบบ extra-label use คือนำมาใช้นอกเหนือจากที่ผู้ผลิตได้ขอขึ้นทะเบียนไว้นั่นเอง ข้อควรระวังที่สำคัญ คือ ลักษณะของยาที่ใช้กำจัดเห็บนั้นในบางยี่ห้อมีลักษณะหนืดข้นคล้ายน้ำมัน อาจทำให้สัตว์ที่ได้รับการฉีดยาที่ผิวหนังนั้นจะค่อนข้างแสบผิวมากโดยเฉพาะสุนัขนั้นอาจจะไม่ชอบ แต่อย่างไรก็ตาม ข้อดีของยานี้คือเหมาะกับสุนัขที่ป้อนยายาก ช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับยาหยดหลังนั้น อีกทั้งยังช่วยครอบคลุมการถ่ายพยาธิตัวกลม และป้องกันพยาธิหนอนหัวใจได้ ด้วยข้อแนะนำที่สำคัญคือกรณีใช้ยาเพื่อกำจัดเห็บนี้ควรจะใช้ในสุนัขที่มีอายุมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป ในกรณีที่ใช้ยานี้เพื่อป้องกันพยาธิหนอนหัวใจไม่ควรนำมาใช้ในลูกสุนัขที่มีอายุน้อยกว่า 6 สัปดาห์ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ในสุนัขสายพันธุ์ที่มีความไวต่อยานี้ เช่น พันธุ์คอลลี่ พันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก และพันธุ์โอลด์ อิงลิช ชีพด็อก นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงการใช้ยาในสุนัขขนาดเล็ก […]
News Update
ทราบแล้วเปลี่ยน!!! ชวนพิสูจน์รถ EV เซฟจัดประหยัดจริง กับ “EV Go ทริปปิดดีล”
กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กฟผ. ชวนสายกรีนออกโรดทริปสร้างประสบการณ์ใหม่ ทดลองขับรถ EV 4 เส้นทาง หัวหิน – สัตหีบ – เขื่อนศรีนครินทร์ – เขาใหญ่ ภายใต้กิจกรรม “EV GO ทริปปิดดีล” โชว์ศักยภาพรถ EV และสถานีชาร์จไฟฟ้า EleX by EGAT ที่ครอบคลุมเส้นทางหลักทั่วไทย สานแนวคิด “ทราบแล้วเปลี่ยน” ให้ความมั่นใจคนไทยหันมาใช้รถอีวี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ถึง 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดกิจกรรม “EV GO ทริปปิดดีล” ภายใต้แคมเปญ “ทราบแล้วเปลี่ยน” ชวนเหล่า EV Tripper กว่าร้อยชีวิตร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่คาราวานโรดทริปขับขี่รถอีวีอย่างชาญฉลาดและปลอดภัย โดยกลุ่ม EV Instructor ชื่อดัง ได้แก่ สุรมิส เจริญงาม, อรรครินทร์ ห้องดอกไม้, กฤษดา […]