Interviews
NPR Digital Partner
เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SMEs ไทยฝ่าวิฤตเศรษฐกิจดิจิทัล
เมื่อภาคธุรกิจ SMEs สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย ในฐานะที่เป็นหน่วยธุรกิจที่มีผู้ประกอบการมากถึง 3 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 99.5 ของวิสาหกิจหรือกิจการในไทย ต้องยอมรับว่าธุรกิจ SMEs นั้นก่อให้เกิดการจ้างงานมากที่สุดและยังมีส่วนสำคัญผลักดันให้เกิดขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งจากการส่งออกและนำเข้าสินค้าและบริการ รวมถึงเป็นกลไกหมุนเวียนรายได้และกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ อีกด้วย แต่เมื่อโควิด-19 ได้แพร่ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก ย่อมส่งผลกระทบต่อ SMEs ไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อความอยู่อยู่รอด พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย เสริมสภาพคล่องระยะสั้น และเตรียมความพร้อมให้ธุรกิจพัฒนาต่อได้ในระยะยาวให้กลับมาพร้อมเข้าสู่การแข่งขันได้อย่างรวดเร็วด้วยการทำ Digital Transformation ผ่านระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) และใช้ซอฟท์แวร์เข้ามาบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ประกอบการหลายท่านทราบกันดีว่าระบบเหล่านี้มีต้นทุนที่สูงเกินเอื้อม และยังมีบางอย่างที่ไม่สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับขนาดและประเภทธุรกิจ SMEs วันนี้ The Sharpener จึงได้ชวนคนรุ่นใหม่ไฟแรง 3 ท่านจาก NPR Digital Partner ทั้ง แพรี่ แพรวา นิมิตกุล Head of Strategyนีโน่ ศุภกิตติ์ เกษตรตระการ Head […]
หุ่นยนต์ ‘Walkie’ ดังกระหึ่ม วิศวฯ จุฬาฯ คว้ารองแชมป์โลก
เมื่อประเทศไทยอยู่ในยุคสมัยแห่งสังคมผู้สูงวัยมาระยะหนึ่งแล้ว จึงทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะได้เห็นตลาดสินค้าและบริการขานรับและพุ่งเป้าใส่ใจไลฟ์สไตล์คนสูงอายุ หรือกลุ่ม Eldery Care ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน เราก็ได้เห็นความพยายามของหลายบริษัทยักษ์ใหญ่โดดลงมาชิงชัยแข่งกันปักธงในตลาดนี้โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ผลิต “หุ่นยนต์” เร่งพัฒนานวัตกรรม ปรับปรุงผลิตภัณฑ์โดยนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาประยุกต์เอื้อต่อการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะเฉพาะตัว เข้าตำรา “คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ” เพราะคนตัดสินใจซื้อส่วนใหญ่เป็นลูกหลานหามาให้ไว้ใช้งานด้วยความห่วงใย หลายครอบครัวจึงกำลังมองหาหุ่นยนต์มาเป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระการดูแลผู้สูงวัยในบ้าน ไม่เพียงบริษัทระดับโลกเท่านั้นที่กำลังแข่งขันพัฒนาหุ่นยนต์ แต่ในระดับผู้พัฒนาระดับจูเนียร์ลงมาอย่างกลุ่มนิสิตนักศึกษาทั่วโลกเองก็ทำได้เก่งกาจไม่แพ้กันเลยทีเดียว ล่าสุดกับการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับนานาชาติในรายการที่ใหญ่ที่สุดในโลก “RoboCup@Home 2022” ที่เวียนกลับมาจัดที่ประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2565 ทีมหุ่นยนต์สัญชาติไทยโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้แสดงศักยภาพความเก่งกล้าสามารถในด้านนี้เป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งโลก โดยคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งมาครองได้สำเร็จ The Sharpener, Sharpen your SDG จึงพลาดไม่ได้ที่จะพาทุกท่านมารู้จักกับ “น้องเอิร์ธ ธนโชติ” หัวหน้าทีม EIC Chula ผู้พัฒนาหุ่นยนต์น้อง ‘Walkie’ จนดังกระหึ่มโลก ธนโชติ สรรพกิจ หรือ เอิร์ธ นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะหัวหน้าชมรมหุ่นยนต์แห่งวิศวฯ […]
ทานน์ดี นวัตกรรมอาหาร เพื่อคนไทยมีสุขภาพดี
The Shapener พาคุยกับ ผศ.ดร. สถาพร งามอุโฆษ อาจารย์ภาควิชาโภชนาการและการกำหนดอาหาร คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ร่วมก่อตั้ง ทานน์ดี (Tann:D) อาจารย์แอมกล่าวว่าทานน์ดี ต้องการให้คนไทยทั่วไปมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน เลยทำให้นวัตกรรมของทานน์ดี เป็นนวัตกรรมที่มีความแตกต่างส่งเสริมสุขภาพโดยผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ทำออกมาคือเส้นโปรตีนจากไข่ขาวไม่ผสมแป้งเพื่อที่จะทำให้คนไทยดูแลตัวเองได้แบบง่าย ๆ และได้โปรตีนอย่างเพียงพอ Tann:D ทำไมถึงดีต่อผู้ป่วย สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องโรค โดยเฉพาะโรคจากการมีภาวะน้ำหนักตัวเกิน ผลิตภัณฑ์ของทานน์ดี 1 ห่อจะให้พลังงานเพียงแค่ 35 กิโลแคลอรีหรือเท่ากับแอปเปิ้ลครึ่งลูกเพียงเท่านั้น หากเทียบกับเส้นทั่ว ๆ ไปในปริมาณที่เท่ากัน ทานน์ดีจะให้พลังงานน้อยกว่าอย่างน้อยถึง 2 เท่า แต่ถ้าเทียบกับเส้นอุด้งแล้วเส้นไข่ขาวของทานน์ดีจะให้พลังงานน้อยกว่าถึง 5 เท่า เหตุนี้จึงทำให้คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก สามารถควบคุมน้ำหนักตัวได้ดี หรือคนเป็นโรคเบาหวานสามารถที่จะทานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำตาลเกิน คนที่ต้องการโปรตีน ผู้ป่วยที่ล้างไต หรือคนไข้โรคมะเร็ง ก็สามารถทานเส้นไข่ขาวได้ อีกทั้งยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักสุขภาพ ที่ต้องการดูแลร่างกายของตนเอง Tann:D ทำเมนูอะไรดี ทานน์ดีสามารถทำได้ทั้งของคาวและของหวาน เมนูโปรดของผู้ใหญ่ที่ซื้อทานน์ดีไปรับประทานคือนำเส้นอุด้งไข่ขาวไปใส่กับน้ำเต้าหู้ จัดเป็นเมนูของหวานที่ได้รับความนิยม หากเป็นเมนูอาหารคาวที่รสจัดหน่อย ก็สามารถนำไปแทนเส้นขนมจีน ทำเป็นเส้นทานน์ดีกับน้ำยากะทิ หรือนำไปทานคู่กับส้มตำ ก็ได้ […]
SDGs
“มหาลัยไทยอยู่ตรงไหนในโลก Digital Nomad”
“Digital Nomad” เป็นคำที่คนไทยเริ่มรู้จักและได้ยินหนาหูขึ้นเรื่อย ๆ มาตั้งแต่ปีกลาย โดยคำนี้เป็นชื่อเรียกกลุ่มมนุษย์โลกพันธุ์ใหม่ที่สามารถทำงานได้จากทุกที่ทั่วโลกที่มีอินเทอร์เน็ต และคนกลุ่มนี้เองกำลังกลายเป็นเป้าหมายใหม่ที่ภาคธุรกิจและการศึกษาทั่วโลกจับตามองเช่นกัน จากรายงาน Global Digital Nomad Study ของ ABrotherAbroad.com ประเมินว่า กลุ่ม Digital Nomad ทั่วโลก สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 787 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณปีละ 26.8 ล้านล้านบาท โดยในปี 2565 จ านวน Digital Nomad ทั่วโลก พุ่งขึ้นแตะระดับ 35 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.3 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีจ านวนเพียง 15.2 ล้านคน และมีโอกาสแตะระดับ 60 ล้านคน ในปี 2573 สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถือเป็นตลาด Digital Nomad ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การเพิ่มขึ้นของ […]
เมื่อคลิปหลุด ใครกันแน่ที่สังคมออนไลน์เลือกประณาม?
กรณีคลิปหลุดของเน็ตไอดอล “พิมพ์ กรกนก” และอดีตแฟนหนุ่ม “ยิ้ว วาริ” กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางบนโลกโซเชียลอยู่ขณะนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือฝ่ายชายกลับถูกโจมตีอย่างหนักหลังจากที่ฝ่ายหญิงออกมาแถลงข่าวพร้อมน้ำตา เรียกร้องให้คนเห็นใจและไม่แชร์คลิปของเธอ ส่งผลให้กลุ่มแฟนคลับของเธอพากันไปคอมเมนต์ประณามใส่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของฝ่ายชายทันทีว่าเขาต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีหลักฐานใด ๆ มายืนยัน การกระทำเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการใช้อคติทางเพศมาตัดสินโดยขาดการใคร่ครวญ เพียงแค่เห็นผู้หญิงมาร้องไห้ต่อหน้าสาธารณชน ก็ปักใจเชื่อทันทีว่าผู้ชายเป็นฝ่ายผิด ละเลยข้อเท็จจริงที่ว่าทั้งยิ้วและพิมพ์ได้แจ้งความร่วมกันเพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริง ซึ่งถ้ายิ้วเป็นคนปล่อยคลิปเองแล้ว ทำไมพิมพ์ถึงยอมร่วมดำเนินคดีไปพร้อมกับเขาด้วยล่ะ? การที่สังคมด่วนสรุปจึงทำให้เกิดการประณามรุนแรงที่อาจไม่เป็นธรรมต่อฝ่ายชาย แน่นอนว่าการเผยแพร่คลิปส่วนตัวของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง ไม่ว่าบุคคลในคลิปจะเป็นเพศใดก็ตาม แต่การที่แฟนคลับและชาวเน็ตใช้อารมณ์ความชอบ-ชังส่วนตัวมาชี้นำประเด็น กลับเป็นการบิดเบือนความจริง สร้างแรงกดดันให้สังคมเชื่อไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง จนอาจกลบความผิดของคนที่ควรถูกลงโทษไปได้ ในการวิเคราะห์เรื่องนี้ ตราบใดที่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน จึงอาจนำมาสู่การตั้งสมมติฐานได้หลายทิศทาง ทั้งฝ่ายที่เชื่อว่าผู้ที่ปล่อยคลิปอาจเป็นฝ่ายหญิงเองก็อาจเป็นไปได้ ทั้งนี้เพื่อสร้างกระแสให้ตัวเองได้ประโยชน์เป็นผลพลอยได้จากยอดฟอลโลว์ที่อาจพุ่งสูงขึ้น หรือเพิ่มค่าตัวในการรับงานโฆษณาแบบน้ำขึ้นให้รีบตัก ในขณะที่บางฝ่ายก็ปักใจเชื่อว่าคลิปนั้นต้องถูกปล่อยออกจากฝ่ายชายอย่างที่เห็นกันอยู่บ้างแล้ว จะด้วยเหตุคึกคะนองตามวัยหรือจะอะไรก็ตามแต่ แต่กระนั่นเราก็ยังคงสรุปอะไรลงไปชี้ชัดไม่ได้หากยังไม่ได้สืบสาวราวเรื่องพบหลักฐานชัดเจน และปล่อยเวลาให้กระบวนการยุติธรรมได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ ไม่ด่วนเชื่อการออกมาประกาศความเห็นใจจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งสังคมก็ควรเคารพต่ออำนาจศาลสถิตยุติธรรมที่เน็ทไอดอลทั้งคู่เลือกขอเข้าไปพึ่งพิง กรณีนี้จึงเป็นอีกตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงพลังของกระแสสังคมออนไลน์ที่อาจผลักดันให้เกิดวัฒนธรรมการประณามโดยขาดความยั้งคิด เราทุกคนจึงต้องช่วยกันสร้างมาตรฐานใหม่ในการแสดงความคิดเห็น ที่เน้นการใช้วิจารณญาณ ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน และเปิดใจรับฟังความเห็นที่แตกต่าง ไม่ด่วนสรุปตัดสินใครเพียงเพราะแรงกดดันจากเสียงส่วนใหญ่ หรือความชอบ-ชังส่วนตัวแบบพวกมากลากไป หากทุกคนในสังคมออนไลน์ปรับมุมมองให้ยึดมั่นในเหตุผล มีสติ และละวางอคติทางเพศในการแสดงความคิดเห็นได้ นอกจากจะช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศ ยังจะช่วยให้การถกเถียงในประเด็นสาธารณะมีคุณภาพมากขึ้น ก่อให้เกิดสังคมออนไลน์ที่สร้างสรรค์และเป็นธรรมกับทุกคนอย่างแท้จริง
ผ่าคำแถลงนโยบายรัฐบาลเศรษฐา ให้ค่า “โลกเดือด” แค่ไหน
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน ที่นำพาคณะรัฐมนตรีฝ่าด่านอภิปรายโดยไม่ลงมติจากสมาชิกรัฐสภาตลอด 2 วันเต็ม (11-12 ก.ย.66) เล่นเอาเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าเอฟซีทั้งกองเชียร์และกองแช่งอึงมี่ไปทั่วเมือง เพราะหลายนโยบายฟังแล้วก็น่าหนุนส่งอยากให้เร่งทำคลอดออกมาไว ๆ ในขณะที่ก็มีบางนโยบายถูกแซวว่าไม่ตรงปกผิดเพี้ยนไปจากที่พรรคแกนนำหาเสียงไว้ รวมถึงบางนโยบายก็หายลิบเลือนเข้ากลีบเมฆไปไม่ปรากฏให้เห็นในคำแถลงที่ลงไว้ในราชกิจจานุเบกษา ความยาว 14 หน้า นับรวมได้ถึง 297 บรรทัด ซึ่งเมื่อใครได้ชมการแถลงสดกลางสภาของท่านนายกเศรษฐา หรือจะกลับมานั่งอ่านดูกันให้ละเอียดถี่ถ้วนก็จะพบว่านโยบายรัฐบาลชุดนี้ได้ให้ความสำคัญยิ่งกับภารกิจเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาส่อเค้าจะซึมยาวให้หวนกลับมาคึกคักดังจะเห็นได้จากมาตรการเร่งด่วนทั้งลดค่าไฟ ค่าน้ำมันดีเซล พักหนี้เกษตรกรและธุรกิจ SMEs เรื่อยไปจนถึงแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แต่เมื่อเราลองกวาดตาพลิกหานโยบายด้านสิ่งแวดล้อมก็ได้เจอเข้าอย่างจังกับความพยายามสู้โลกเดือดที่ก็ให้ความสำคัญต่อการรับมือกับความแปรปรวนของสภาพอากาศอินเทรนด์ได้ไม่น้อยหน้าประเทศชั้นนำอื่นเช่นกัน โดยแอบปรากฏคำว่า “คาร์บอน” ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของการสู้โลกเดือดครั้งนี้ไว้มากถึง 3 แห่งเลยทีเดียว นั่นคือ “การขายคาร์บอนเครดิต” “Carbon Neutrality” และ “ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์” คำแรก “การขายคาร์บอนเครดิต” ปรากฏพบอยู่ที่หน้า 8 ในราชกิจจานุเบกษา ตรงย่อหน้าที่ว่า“…นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมแนวทางที่สร้างรายได้จากผืนดินและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน โดยกำหนดให้มีสัดส่วนการปลูกไม้ยืนต้นให้เหมาะสมกับประเภทและลักษณะของพื้นที่ และส่งเสริมให้เจ้าของที่ดินหรือชุมชนโดยรอบได้รับประโยชน์จากการเพิ่มพูนของระบบนิเวศ การขายคาร์บอนเครดิตอย่างยุติธรรม และได้รับการยอมรับจากระดับสากล…” อ่านเผิน ๆ ก็พลอยทำให้ใจฟูได้อยู่เหมือนกัน แต่เมื่อเจาะลึกลงไปกลับยังมองไม่เห็นแววแนวดำเนินนโยบายที่แน่ชัดโดยเฉพาะกับวรรคที่กล่าวว่า “…กำหนดให้มีสัดส่วนการปลูกไม้ยืนต้นให้เหมาะสมกับประเภทและลักษณะของพื้นที่…” ดูแล้วก็จะคล้ายกับข้อกำหนดของกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยที่ก่อนหน้านี้เคยกำหนดพื้นที่เกษตรกรรมด้วยจำนวนพืชผักและไม้ผลต่าง […]
ถอดบทเรียน “ไฟป่าฮาวาย” เซ่นโลกเดือด คร่าชีวิต 115 ศพ ฉุดเศรษฐกิจวูบเฉียด 2 แสนล้าน
จากอุณหภูมิโลกในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ร้อนปรอทแตกจนองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกต้องขอจดบันทึกไว้เป็นประวัติการณ์ว่าเป็นอุณหภูมิที่สูงที่สุดเท่าที่โลกเราเคยเผชิญมา ร้อนไปถึงนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ฤกษ์ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ขณะนี้โลกเราได้อัพเวลเข้าสู่ยุค “โลกเดือด” (Global Boiling) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันชาวโลกก็ต้องอกสั่นขวัญแขวนกันอีกครั้ง เมื่อมลรัฐฮาวายแห่งสหรัฐอเมริกาต้องเผชิญกับหายนะไฟป่าที่แผดเผาเกาะเมาวีให้มอดไหม้แทบทั้งเกาะนานนับสัปดาห์จนคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 115 ศพ และยังสูญหายอีกถึง 110 ราย เกาะเมาวี ถือเป็นที่ตั้งของ “ลาไฮนา” เมืองหลวงเดิมของฮาวาย เป็นเกาะใหญ่อันดับ 2 ในบรรดาหมู่เกาะฮาวาย และนับได้ว่ามีชายหาดสวยงาม ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวมากมายต่างเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจกัน แต่ในรอบเดือนที่ผ่านมาไฟป่าได้โหมกระหน่ำทำให้ที่นี่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อย่างเข้าบ่ายคล้อยของวันที่ 8 สิงหาคม 2566 ชาวเมืองลาไฮนาต้องเผชิญกับไฟป่าหลายจุดผนวกกับกระแสลมกรรโชกแรงส่งผลให้ไฟป่าปะทุลุกลามอย่างรวดเร็วจนทั้งเมืองกลายเป็นทะเลเพลิง ประชาชนนับหมื่นต่างต้องหนีตายอย่างอลม่าน ซึ่งกว่ารัฐจะเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จรวมถึงค้นหาผู้เสียชีวิตตามซากปรักหักพัง ก็ใช้เวลานานถึง 4 สัปดาห์ ทำให้พื้นที่กว่าร้อยละ 80 ของเมืองหรือประมาณ 5,300 ไร่ กลายเป็นเถ้าธุลี สิ่งปลูกสร้างกว่า 2,200 หลังพังราบเป็นหน้ากลอง โดยเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ของรัฐเมาวีได้เปิดเผยว่าเหตุการณ์นี้พบผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 115 […]
ซาฮาราก็แค่ปากซอย วิกฤตอีสานดินเค็ม เสี่ยงเป็นทะเลทราย
ประเทศไทย ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของกลุ่มประเทศอาเซียน มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 320 ล้านไร่ มีประชากรประมาณ 70 ล้านคน และส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ในปี 2564 มีที่ดินซึ่งใช้ในการเกษตรมากถึง 149 ล้านไร่ (สำนักงานสถิติแห่งชาติ) คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งประเทศ จึงไม่น่าแปลกใจที่ไทยจะเป็นผู้นำด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรมากมายมาเป็นเวลานาน อีกทั้งอาจกล่าวได้ว่า “ไม่มีดิน ไม่มีเรา” แต่ดินอันเป็นทรัพยากรสำคัญของประเทศไทยนั้น นับวันกลับยิ่งเสื่อมโทรมลง ปัญหาเกิดจากอะไรและใหญ่แค่ไหน The Sharpener มีคำตอบครับ ภาคการเกษตรถือได้ว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย จากข้อมูลการทำสำมะโนการเกษตรของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนประชากรในภาคเกษตรมากถึง 25 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของประชากรทั้งหมด นับว่าเป็นแหล่งรองรับแรงงานขนาดใหญ่ที่สุด ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าทางการเกษตรอันดับต้น ๆ ของโลกอย่างต่อเนื่อง เช่น ในปี 2565 ที่ผ่านมา ไทยถือเป็นแชมป์โลกส่งออกยางพารา มันสำปะหลัง ทุเรียน และ มังคุด (ข้อมูล worldtopexport ของ กระทรวงพาณิชย์) นอกจากนี้ยังมีสินค้าส่งออกอื่น […]
The Great Barrier Reef ออสซี่ฟื้นปะการังซอมบี้สู้ทะเลเดือดหนีหลุดมรดกโลก
“The Great Barrier Reef” ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโก้ ตั้งแต่ปี 1981 เป็นต้นมา ด้วยดีกรีแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทอดตัวอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ครอบคลุมพื้นที่ทางทะเลกว่า 348,000 ตารางกิโลเมตร หรือมีขนาดใหญ่กว่าประเทศเวียดนามที่มีคนอาศัยอยู่บนแผ่นดินราว 100 ล้านคน แต่เมื่อลองดำดิ่งลงมายังโลกใต้ทะเล The Great Barrier Reef เป็นถิ่นอาศัยของสิ่งมีชีวิตมากมายกว่า 9,000 ชนิดอยู่ในแนวปะการังมากกว่า 3,000 แนว ซึ่งแน่นอนว่าพื้นที่ขนาดนี้ย่อมกว้างใหญ่กว่าแนวปะการังในท้องทะเลไทยถึง 2,300 เท่าเลยทีเดียว แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลโดยตรงให้น้ำทะเลอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดปรากฏการณ์ปะการังซอมบี้ฟอกขาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงไม่ง่ายเลยที่ออสเตรเลียจะยื้อสถานภาพมรดกโลกแห่งนี้ไว้ได้นาน แต่ยังไงเสียก็ยังไม่สายเกินเพลที่จะทุ่มทำอะไรกันบ้าง The Sharpener จึงได้เก็บเรื่องราวความพยายามสู้โลกรวนของพวกเขามาฝากกันเช่นเคย น้อยคนนักที่จะทราบว่าภายในปะการังยังมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่นั่นคือสาหร่ายจิ๋ว “ซูแซนเทลลี่” (Zooxanthellae) ผู้ทำหน้าที่สร้างอาหารให้กับปะการังผ่านการสังเคราะห์ด้วยแสง แต่ด้วยน้ำทะเลที่ทั้งอุ่นและเค็มขึ้นจึงเป็นเหตุให้สาหร่ายจิ๋วเหล่านี้มิอาจทานทนอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่เรรวนซวนเซ บ้างต้องหนีตาย บ้างก็ต้องตายโดยที่ยังไม่ทันได้หนี เหลือทิ้งไว้เพียงซากโครงสร้างหินปูนให้ดูต่างหน้า สภาวการณ์เช่นนี้เองที่เขาเรียกกันว่า “ปะการังฟอกขาว” (Coral Bleaching) โดยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาได้เกิดปรากฎการณ์นี้ครั้งใหญ่ไปแล้วถึง 2 ครั้ง คือ […]
News Update
เปิดศักราชเรียนรู้ตลอดชีวิต จุฬาฯ จับมือ The Sharpener ปั้นหลักสูตรใหม่สร้าง Global Talent หัวใจไทย
ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chula Unisearch) ร่วมกับ The Sharpener School จัดงานปฐมนิเทศหลักสูตร “Media and Communication for Transnational Citizens” แบบไฮบริดให้กับผู้เรียน รุ่นที่ 1 จำนวนทั้งสิ้น 478 คน ณ หอประชุมคณะวิศวกรรมศาสตร์ (Hall of Intania) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารสถาบันการศึกษา คณาจารย์ และภาคีเครือข่ายร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ศาสตราจารย์ กิตติคุณ ดร.ศักดา ปั้นเหน่งเพ็ชร์ ดร.ศรายุธ แสงจันทร์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ดร.สุดคนึง ฤทธิ์ฤาชัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยนักบริหารสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ดร.เนติธร ประดิษฐ์สาร คุณอังคณา สุขวิบูลย์ อดีต ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์องค์การ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คุณมกร พงษ์ธนพฤกษ์ อดีตเลขาธิการ […]
วิศวจุฬาฯ ปลอบขวัญน่าน ส่งข้าวสาร 4 ตัน พร้อมอุปกรณ์ฟื้นฟูบ้านหลังน้ำลด
26 ส.ค.67 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย รศ.ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดี พร้อมผู้บริหารและคณาจารย์ เฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด แสดงความห่วงใยและเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดน่าน โดยเร่งประสานขอความร่วมมือจากประชาคมวิศวจุฬาฯ และสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สวจ.) ระดมทุนและอุปกรณ์จำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อจัดส่งไปบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้ว การดำเนินการครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากทุกภาคส่วน สามารถรวบรวมสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่จำเป็น มูลค่ากว่า 100,000 บาท ได้อย่างรวดเร็ว และได้ประสานหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือให้ถึงมือผู้ประสบภัยโดยตรง รศ.ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวว่า “ทันทีที่เราทราบถึงความเดือดร้อนของพี่น้องชาวน่าน พวกเราชาววิศวจุฬาฯ ก็ได้เร่งระดมความช่วยเหลือเร่งด่วนชวนกันมาปันน้ำใจให้เพื่อนพี่น้องคนไทยด้วยกัน โดยเฉพาะในพื้นที่น่านเองเรามีโครงการร่วมกันพัฒนาแหล่งน้ำให้กับชาวบ้านจึงผูกพันกันมานาน ยามมีภัยเราและภาคีเครือข่ายจึงต้องรีบช่วยเหลือกันทันทีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวน่านผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว” รายการสิ่งของที่จัดส่งไปยังพื้นที่ประสบภัยประกอบด้วยสิ่งจำเป็นหลากหลายประเภท ได้แก่ ยารักษาโรคที่จำเป็นสำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น อุปกรณ์ทำความสะอาดที่จะช่วยฟื้นฟูบ้านเรือนหลังน้ำลด เช่น ถุงขยะจำนวน 100 กิโลกรัม รองเท้าบูท 200 คู่ ถุงมือยาง 240 คู่ ไม้กวาดทางมะพร้าว 200 อัน ตะกร้า 100 อัน และไม้ถูพื้น 100 อัน […]
ไทย-สหรัฐ ลงนาม MOU ประวัติศาสตร์ เชื่อมระบบนิเวศสตาร์ทอัพ Montgomery County ผนึกกำลัง FTI และ NIA หนุนผู้ประกอบการไทยบุกตลาดอเมริกา
ในโอกาสครบรอบ 190 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ณ งาน Startup Innovation Thailand Event (SITE2024) ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญที่จะเป็นจุดเปลี่ยนในวงการสตาร์ทอัพและนวัตกรรมของทั้งสองประเทศ เมื่อ Montgomery County รัฐ Maryland สหรัฐอเมริกา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและเชื่อมโยงระบบนิเวศสตาร์ทอัพระหว่างไทยและสหรัฐ การลงนามครั้งประวัติศาสตร์นี้นำโดยผู้นำองค์กรสำคัญจากทั้งสองประเทศ ได้แก่ นายมาร์ค เอลริช (Mr. Marc Elrich) ผู้บริหารเขต Montgomery County นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ที่ต่างเล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมร่วมกัน โดยมี นางจูดี้ คอนเทลโล่ (Ms.Judy Costello) ผู้แทนจาก Montgomery County และรองศาสตราจารย์ […]
พลิกโฉมต่อต้านคอร์รัปชันKRAC จุฬาฯ ชวนสร้างสังคมโปร่งใสในงาน อว.แฟร์’67
เปิดประสบการณ์สุดพิเศษที่จะเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการต่อต้านคอร์รัปชันของคุณไปตลอดกาล ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชันและส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค (KRAC) คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการสนับสนุนของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เปิดบูธสุดล้ำที่คุณไม่ควรพลาดในงาน “อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND” ระหว่างวันที่ 22 – 28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในบูธ KRAC คุณจะได้สัมผัสโลกแห่งการต่อต้านคอร์รัปชันในมิติใหม่ที่น่าตื่นเต้น เริ่มจากการทำความรู้จักกับบทบาทของศูนย์ KRAC ในฐานะศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการต่อต้านคอร์รัปชันในระดับภูมิภาค พร้อมชมผลงานล่าสุดอย่างเว็บไซต์ KRAC Corruption แหล่งรวมข้อมูลคอร์รัปชันที่ครบครันที่สุดในประเทศไทยที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงความรู้เกี่ยวกับการต่อต้านคอร์รัปชันได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ คุณยังจะได้เรียนรู้หลักสูตรออนไลน์ “Contemporary Good Governance and Anti-Corruption” ที่พัฒนาร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์และคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงองค์กรชั้นนำด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้คุณเข้าใจการต่อต้านคอร์รัปชันหลากมิติ พิเศษสุดสำหรับผู้ที่สนใจเจาะลึกเรื่องความโปร่งใสเป็นพิเศษ KRAC ได้นำ “ตำรา (ต่อต้าน) คอร์รัปชัน 101” มาวางจำหน่ายในราคาพิเศษเพียง 170 บาท คู่มือเล่มเดียวที่จะทำให้คุณเข้าใจการคอร์รัปชันได้อย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้น […]
จุฬาฯ เปิดตัว “โซลูชั่นการเรียนรู้ตลอดชีวิตแบบดิจิทัล” ในงาน อว.แฟร์
ในยุคเทคโนโลยีก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้ตลอดชีวิตกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญนี้ พร้อมเปิดประตูสู่โลกแห่งการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัดผ่านโครงการ “โซลูชั่นการเรียนรู้ตลอดชีวิตแบบดิจิทัล” (Digital Lifelong Learning Solutions) ในงาน “อว.แฟร์: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND” ศูนย์การศึกษาทั่วไป จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (GenEd จุฬาฯ) ได้ริเริ่มโครงการนี้ด้วยการจัดทำรายวิชาศึกษาทั่วไปกลุ่ม Chula MOOC Flexi จำนวน 28 คอร์สเรียน ครอบคลุม 8 ชุดรายวิชา บนแพลตฟอร์มคลังความรู้ดิจิทัล Chula Neuron โดยมุ่งเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับ Digital Literacy และ Artificial Intelligence (AI) ซึ่งเป็นทักษะสำคัญแห่งยุคดิจิทัล ความพิเศษของโครงการนี้คือความยืดหยุ่นในการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจและเวลาที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นนิสิตจุฬาฯ นักเรียน นักศึกษาจากสถาบันอื่น ข้าราชการ บุคลากรภาครัฐและเอกชน หรือประชาชนทั่วไป ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงความรู้คุณภาพสูงจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของประเทศ ไฮไลท์สำคัญของโครงการ คือการเปิดตัว “Digital […]
จุฬาฯ จัดเวิร์คช้อปใหญ่ “CHULA AED FOR ALL” พร้อมดูแลผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน
ศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “CHULA AED FOR ALL” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2567 ณ หอประชุมคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้ความรู้และฝึกอบรมการใช้เครื่อง AED ร่วมกับการทำ CPR ให้กับประชาคมจุฬาฯ ภาคีเครือข่าย และชุมชนรอบข้าง การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่อาจเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยใช้เครื่อง AED ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย ร่วมกับการทำ CPR เพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิต ภายในงานมีกิจกรรมเสวนาเรื่องความสำคัญของ AED และการฝึกอบรมการใช้เครื่อง AED ร่วมกับการ CPR โดยได้รับเกียรติจากนายแพทย์สัณฐิติ ดะห์ลัน รักษาการผู้อำนวยการศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณกมล โรจน์เรืองเดช ผู้ชำนาญการด้าน AED (Product Specialist) วิทยากรอบรม CPR และ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับภาคประชาชน คุณศุภชัย ชุติกุศล CEO CU Engineering Enterprise และคุณอธิศีล ธัญญ์ ณ […]