Banner 188

‘สัตว์เลี้ยงแสนรัก’ กักตัวพร้อมผู้ป่วยโควิดได้หรือไม่

ท่ามกลางสถานการณ์โควิดระบาด นอกจากการระบาดในมนุษย์แล้ว มักเกิดคำถามตามด้วยความกังวลใจเกี่ยวกับการระบาดในสัตว์เลี้ยงภายในบ้านที่พบผู้ติดเชื้อหรือที่หลายคนเรียกจนติดปากชวนเอ็นดูว่า “น้อง”  ซึ่งจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เคยตีพิมพ์ออกมาต่างรายงานว่าโรคโควิด19 สามารถระบาดได้เช่นกันในสัตว์เลี้ยงภายในบ้านทั้งน้องแมวและน้องสุนัข รวมถึงสัตว์ที่ถูกเลี้ยงไว้ในสวนสัตว์อย่างเสือโคร่ง กอริลลา และตัวนาก และที่มากไปกว่านั้นยังเคยพบโควิดในสถานเพาะเลี้ยงสัตว์รูปแบบฟาร์มจำพวกตัวมิงค์อีกด้วย โดยหลักการติดเชื้อโควิด19 ในสัตว์นั้นมักเกิดขึ้นได้เฉพาะชนิดสัตว์ที่มีลักษณะตัวรับเชื้อไวรัส (viral receptor) สอดรับกับหนามของไวรัสพอดี เสมือนแม่กุญแจกับลูกกุญแจนั่นเอง ถ้าเข้าข่ายดังกล่าวไวรัสจึงจะสามารถเข้าไปในเซลล์และก่อโรคในสัตว์ได้ ในหมู่ของกลุ่มสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน แมวจะมีตัวรับไวรัสที่มีความไวจับเชื้อไวรัสโควิด19 ได้มากกว่าสุนัข ทำให้เราต้องให้ความระมัดระวังมากขึ้นหากต้องสัมผัสกับแมว แต่อย่างไรก็ตาม หากแมวติดเชื้อก็จะไม่แสดงอาการ หรือหากแสดงอาการก็จะมีเพียงจาม ไอเล็กน้อย และหายป่วยเองได้โดยไม่ต้องรักษา และขอย้ำว่าจนถึงในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ระบุว่าสัตว์เลี้ยงสามารถแพร่โรคโควิด19 มาสู่คนได้ จึงไม่จำเป็นต้องกังวลใจไปเกินกว่าเหตุ ปล่อยทิ้งสัตว์เลี้ยงให้ออกจากบ้านกลายเป็นสัตว์จรจัด ในทางกลับกันเจ้าของเองควรกักสัตว์เลี้ยงไว้เฉพาะในที่พักอาศัยเท่านั้น และงดการพาออกไปเดินเล่นตามที่สาธารณะ อีกทั้งยังควรหมั่นสังเกตอาการของสัตว์เลี้ยง หากมีอาการไอ มีไข้ หายใจลำบาก ซึม จาม อาเจียน ท้องเสีย ควรแยกตัวที่ป่วยออกห่างจากสัตว์เลี้ยงตัวอื่น รีบโทรปรึกษาสัตวแพทย์ และหมั่นทำความสะอาดของใช้ของสัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอร่วมด้วย เมื่อเจ้าของสัตว์ติดเชื้อโควิด19 และอยู่ระหว่างการพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน (Home isolation) ซึ่งแน่นอนว่าที่บ้านเรามีสัตว์เลี้ยงแสนรักอยู่กับท่านด้วย ท่านก็ยังสามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้  เพียงหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวสัตว์เลี้ยงโดยตรง เช่น การกอด จูบ หอม ให้น้องเลียมือ […]

Banner 186

ยาฝรั่ง ยาจีน ยาไทย หรือ ยาใจ อะไรดีกว่ากัน

จากการพูดคุยสนทนาผ่านช่องทาง Clubhouse ห้องกล่องรอดตาย ในหัวข้อ “ยาฝรั่ง ยาจีน ยาไทย หรือ ยาใจ อะไรดีกว่ากัน” เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากสาขาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คุณหมอหวา แพทย์หญิงเกวลี สุนทรมน หัวหน้าทีม Home Isolation สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) คุณหมอมิ้นท์ แพทย์จีนอรภา ศิลมัฐ รองคณบดีคณะการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ คุณพิมพ์ ณัฏฐณี สุขปรีดี นักจิตวิทยาพัฒนาการ (เพจ Mature Your Child) ประธานชมรมนิสิตเก่าจิตวิทยา จุฬาฯ ซึ่งดำเนินรายการโดย คุณแมค อธิศีล ธัญญ์ ณ ป้อมเพชร ประชาสัมพันธ์ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ และผู้ร่วมก่อตั้งโครงการกล่องรอดตาย และคุณบิว เภสัชกรจักรพงศ์ สุวรรณกนิษฐ์ หัวหน้าทีมอาสาสมัครกล่องรอดตาย ฉายมุมมองสาระการรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์หลากแผนหลายตำรับ ช่วยไขข้อข้องใจในประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจ […]

Banner 184

กว่าจะยืนหนึ่งได้ในเอเชีย : ความสำเร็จวันนี้ที่จุฬาฯ

รศ.ดร.ณัฐชา ทวีแสงสกุลไทย รองอธิการบดี ด้านการวางและกำหนดยุทธศาสตร์ นวัตกรรมและพันธกิจสากล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความสำคัญของมหาวิทยาลัยคงต้องบอกว่าเรามีมหาวิทยาลัยเพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศและตอบสนองความต้องการของประชาชนและสังคม ในยุคที่ความต้องการของสังคมเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามาเร่งกระบวนการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ภาคเอกชนจึงมีความต้องการที่จะไม่เหมือนเดิม บทบาทของมหาวิทยาลัยต้องเปลี่ยนจากการเป็นเพียงผู้สอน เป็นมหาวิทยาลัยวิจัย หรือการบริการทางวิชาการ ขยายสู่การเป็นผู้เชื่อมต่อภาคส่วนต่าง ๆ  สร้างนวัตกร และเป็นผู้ริเริ่มในการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดียิ่งขึ้น เหตุนี้จึงนำมาสู่วิสัยทัศน์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคือการเป็น Innovations for Society มหาวิทยาลัยผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคม เป้าหมายของมหาวิทยาลัยระดับโลกในปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงการผลิตคนให้ตอบโจทย์กับตลาดอุตสาหกรรม แต่เป็นการปั้นผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อสังคมที่มีแนวคิดในการทำธุรกิจเพื่อพัฒนาสังคม (Community Engagement) โดยตัวชี้วัดที่จะทำให้รู้ว่าสิ่งที่มหาวิทยาลัยทำตอบโจทย์สังคมหรือไม่ คือดูว่าประชาชนหรือสังคมนั้นกินดีอยู่ดีขึ้นหรือไม่ การดำรงชีวิตดีขึ้นไหม ยกตัวอย่างโครงการที่จุฬาลงกรณ์ฯ ทำ เช่นโครงการข้าวแสนกล่องเป็นหนึ่งในโครงการดี ๆ ที่เราเข้าไปช่วยตอบโจทย์ความต้องการของสังคมในเรื่องของความเหลื่อมล้ำและเรื่องความเท่าเทียมในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐาน  4 ปัจจัยที่หนุนส่งให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยแห่งความยั่งยืนอันดับ 1 ของเอเชียและอันดับที่ 23 ของโลก มีปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จประกอบไปด้วย เรื่องแรกก็คือยุทธศาสตร์ (Strategy) เรามีวิสัยทัศน์ในการเป็นมหาวิทยาลัยที่สร้างนวัตกรรมเพื่อสังคมภายใต้วิสัยทัศน์นี้ มีกลยุทธ์ยุทธศาสตร์ทั้งหมด 3 ด้านคือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างผู้นำแห่งอนาคต (Future Leader) ยุทธศาสตร์ที่ 2 […]

Banner 182

อย่าปล่อยผู้ป่วยทิ้งไว้กับ “ยาฟาวิพิราเวียร์” โดยลำพัง

“ยาฟาวิพิราเวียร์” (Favipiravir) ถือเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยลดความสูญเสียถึงแก่ชีวิตของผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะในกลุ่มสีเขียวและสีเหลือง โดยล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขไทยเลือกใช้ยาตัวนี้เป็นยาหลักของประเทศที่ใช้สู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ด้วยผลการศึกษาที่เผยให้เห็นถึงประสิทธิภาพช่วยลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสในร่างกายผู้ติดเชื้อได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยลดการก่อให้เกิดการอักเสบของปอดซึ่งเป็นอวัยวะเป้าหมายที่ไวรัสชนิดนี้มุ่งโจมตี ส่งผลให้อัตราผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรวมถึงอัตราการเสียชีวิตเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่หากพิจารณาภาพรวมของสถานการณ์ระบบสาธารณสุขไทยในวันนี้ที่มีข้อจำกัดในเรื่องเตียงและอุปกรณ์ช่วยชีวิตโดยเฉพาะเครื่องช่วยหายใจที่เต็มล้นจนติดลบ ไม่สามารถรองรับความต้องการเข้ารักษาตัวของผู้ป่วยในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามของผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นหลักหมื่นต่อวันติดต่อกันอย่างต่อเนื่องได้ จึงทำให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวไม่มีทางเลือกต่างต้องรักษาตัวเองโดยจำต้องทำ Home Isolation แยกกักตัวอยู่ที่บ้าน และต้องบริหารการใช้ยาเพื่อรักษาอาการป่วยด้วยตนเองซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อมือใหม่ที่มีโอกาสพลาดพลั้งอยู่ไม่น้อย “ยาฟาวิพิราเวียร์” เป็นยาต้านไวรัสชนิดเม็ดขนาด 200 มิลลิกรัม มีวิธีรับประทานเบื้องต้นในผู้ใหญ่ได้ 2 วิธี ตามคำแนะนำของคณะกรรมการกำกับดูแลรักษาโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข โดยจะแบ่งตามเกณฑ์น้ำหนักของผู้ติดเชื้อ ส่วนในคนไข้เด็กนั้นแพทย์จะเป็นผู้ประเมินขนาดยาก่อนสั่งจ่ายทุกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1) ผู้ติดเชื้อที่มีน้ำหนักไม่เกิน 90 กิโลกรัมนั้น ให้เริ่มทานยาวันแรก ครั้งละ 9 เม็ด วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ห่างกัน 12 ชั่วโมง และในวันที่ 2 – 5 ของการรับประทานยา ให้ทานครั้งละ 4 เม็ด วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ห่างกัน 12 […]

Banner 181

ปักหมุดจุดตรวจ ค้นหาจุดตรวจโควิดใกล้บ้าน ทั่วไทย ผ่าน Koncovid.com

The Sharpener พาทดลองใช้ KonCovid แพลตฟอร์มเพื่อใช้ค้นหา จุดตรวจโควิดทั่วประเทศ และทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ โดยทีม Tech for Thailand ร่วมกับ ศบค. จัดทำเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นนี้ สำหรับช่วยประชาชนให้ค้นหาสถานที่ตรวจโควิดในประเทศไทย หรือ ในกรุงเทพฯ ได้ง่ายมากขึ้น โดยสามารถเช็คที่ตั้ง เบอร์โทรศัพท์ ประเภทการตรวจ ราคาค่าบริการตรวจ เวลาเปิดปิด และข้อมูลอื่นๆ ที่สำคัญ เพียงแค่พิมพ์รหัสไปรษณีย์ สถานที่ตรวจจะปรากฏขึ้นมา สำหรับขั้นตอนค้นหา โดยมีวิธีดังนี้ 1.เข้าเว็บไซต์ https://koncovid.com 2.เลือกให้ระบบ แสดงผลทั้งประเทศ หรือแสดงผลเฉพาะกรุงเทพฯ 3.กดที่แผนที่ 1 ครั้ง 4. กดเครื่องหมาย แว่นขยาย (อยู่มุมบนซ้ายของแผนที่) เพื่อค้นหาสถานที่ตรวจใกล้บ้าน โดยพิมพ์ รหัสไปรษณีย์ ลงไป 5. ระบบจะแสดงจุดสีแตกต่างกันไปตามประเภทจะปรากฏแผนที่ประเทศไทยขนาดใหญ่บนจอ และมีจุดบอกสถานที่ตรวจหลากหลายสี ดังนี้  – สีเขียว       โรงพยาบาลรัฐ  […]

แบนเนอร์ ปรอทแก้ว

คำแนะนำการใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้ว : กล่องรอดตาย

เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแก้วมีลักษณะเป็นแท่งยาวที่ประกอบด้วยก้าน และหลอดที่มีขีดสบอกตัวเลขอุณหภูมิ ภายใน เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้ว บรรจุสารปรอทเอาไว้ ซึ่งเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้วนี้จะมีคุณสมบัติที่สามารถขยายตัวได้เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อใช้วัดอุณหภูมิของร่างกาย เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้วสามารถใช้วัดอุณหภูมิร่างกายได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นที่ปาก รักแร้ หรือทวารหนัก  วิธีการใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้ว สามารถทำได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้ 1.ทำความสะอาดเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้วด้วยสบู่และน้ำเย็นก่อนการใช้งานทุกครั้ง หรือสามารถใช้สำลีหรือผ้าก๊อซสะอาดชุบแอลกอฮอล์เช็ดให้ทั่วปรอทวัดไข้แบบแก้วแล้วล้างออก 2.ล้างมือให้สะอาดก่อนทำการวัดอุณหภูมิร่างกาย 3.เตรียมท่านั่งให้เหมาะสม ก่อนทำการวัดอุณหภูมิทางรักแร้ ควรเช็ดทำความสะอาดรักแร้ให้แห้งสะอาด และไม่มีเหงื่อเพราะอาจจะทำให้การวัดอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้วคลาดเคลื่อนได้ 4.นำปลายเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้เสียบเข้าไปที่บริเวณรักแร้โดยให้อยู่บริเวณจุดกึ่งกลาง และไม่เลยออกไปทางด้านหลัง รอประมาณ 7- 10 นาที แล้วจึงนำค่าที่ได้ออกมาอ่าน โดยอ่านที่บริเวณเส้นสีเงินที่อยู่บนสุด ว่าตัวเลขอยู่ที่เท่าใด จึงจะได้ค่าอุณหภูมิร่างกายที่แม่นยำ จากนั้นนำมาเทียบกับสเกลอุณหภูมิของร่างกายเพื่อประเมินอาการไข้ อุณหภูมิ 37.6-38.3 องศาเซลเซียส มีไข้ต่ำ อุณหภูมิ 38.4-39.4 องศาเซลเซียส มีไข้ปานกลาง อุณหภูมิ 39.5-40.5 องศาเซลเซียส มีไข้สูง อุณหภูมิ 40.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป มีไข้สูงมาก ต้องรีบเช็ดตัวลดอุณหภูมิและปรึกษาแพทย์โดยเร็ว 5.ล้างทำความสะอาดเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ทุกครั้งหลังใช้งาน ควรหลีกเลี่ยงการวัดไข้หลังการอาบน้ำหรือการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นค่ะ ถ้าหากมีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ให้รับประทานยาลดไข้ทันที ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้น ควรติดต่อแพทย์ […]

Banner 180 2

คำแนะนำการใช้หน้ากากอนามัย : กล่องรอดตาย

วิธีการใช้หน้ากากอนามัย 1.       ให้หันด้านสีออกด้านนอก หันด้านสีขาวเข้าด้านใน และให้ด้านที่มีลวดอยู่ด้านบน หากเป็นแบบไม่มีสี ให้สังเกตรอยพับของหน้ากากอนามัย หากมุมของรอยพับชี้ลงด้านล่าง ด้านนั้นจะเป็นด้านนอกของหน้ากากอนามัย 2.       นำปลายเชือกทั้ง 2  ข้างคล้องกับใบหู 3.       กดขดลวดให้เข้ากับรูปหน้าด้านบน 4.       ดึงหน้ากากด้านล่างให้ถึงใต้คาง เมื่อสวมหน้ากากแล้ว ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้ากาก และเมื่อถอดหน้ากากหรือสัมผัสหน้ากากโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้ใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% หรือทําความสะอาดมือ ด้วยสบู่และน้ำหากมีคราบสกปรกติดที่มือควรเปลี่ยนหน้ากากทุก 6-8 ชั่วโมง หรือเมื่อหน้ากากเปียกชื้น สกปรก หรือเมื่อออกจากสถานที่แออัด ไม่ควรใช้หน้ากากซ้ำ โดยหน้ากากอนามัยควรใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง วิธีการใช้ทิ้งหน้ากากอนามัย 1.       ถอดหน้ากาก ให้จับสายรัดและถอดหน้ากากอนามัยจากด้านหลัง พับหน้ากากอนามัยส่วนที่สัมผัสกับใบหน้าเข้าด้านใน เพื่อป้องกันสารคัดหลั่งจากน้ำมูกหรือน้ำลายแพร่กระจายและไม่ควรสัมผัสตัวหน้ากาก 2.     […]

Banner 180 0

คำแนะนำการใช้เจลแอลกอฮอล์ : กล่องรอดตาย

เจลแอลกอฮอล์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะต้องใช้เจลที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป จึงจะสามารถกำจัดเชื้อโรคโควิด-19 ได้ เจลแอลกอฮอล์สามารถนำมาใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นเพื่อทำความสะอาดมือในช่วงเวลาที่ไม่สามารถหาสบู่และน้ำเปล่าได้ วิธีการใช้เจลแอลกอฮอล์ 3.       บีบเจลแอลกอฮอล์ลงบนฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง 4.       ชะโลมให้ทั่วฝ่ามือและบริเวณหลังมือ 5.       ปิดฝาทุกครั้งหลังใช้งาน ควรเก็บเจลแอลกอฮอล์ในที่พ้นแสงแดด และให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณเนื้อเยื่ออ่อน เช่น บริเวณดวงตาหรือใบหน้า    ร่วมด้วยช่วยหาแหล่งซื้อยาและเวชภัณฑ์ http://www.bangkokdrugstore.co.th/branch-search.php https://shopee.co.th/osotsala

Banner 180 1

คำแนะนำการใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ : กล่องรอดตาย

สเปรย์แอลกอฮอล์ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะต้องมีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป จึงจะสามารถกำจัดเชื้อโรคโควิด-19ได้ การใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือสามารถนำมาใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นเพื่อทำความสะอาดมือในช่วงเวลาที่ไม่สามารถหาสบู่และน้ำเปล่าได้ อีกทั้งยังสามารถใช้เช็ดทำความสะอาดสิ่งของต่างๆได้เช่นกัน เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย วิธีการใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือ 1.       พ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ลงบนฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง ทั้งบริเวณฝ่ามือและหลังมือ 2.       ปิดฝาทุกครั้งหลังใช้งาน ควรเก็บเจลแอลกอฮอล์ในที่พ้นแสงแดด และให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณเนื้อเยื่ออ่อน เช่น บริเวณดวงตาหรือใบหน้า ร่วมด้วยช่วยหาแหล่งซื้อยาและเวชภัณฑ์ http://www.bangkokdrugstore.co.th/branch-search.php https://shopee.co.th/osotsala

Banner 180 7

คำแนะนำการใช้เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว : กล่องรอดตาย

เครื่องวัดระดับออกซิเจนปลายนิ้ว หรือ Oximeter เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับวัดระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด (Oxygen Saturation) ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยติดตามอาการผู้ป่วยโควิด-19 และใช้ในการเฝ้าระวังอาการโควิด-19 ในผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ เพื่อลดโอกาสที่โรคจะพัฒนาไปถึงขั้นที่รุนแรง เครื่องวัดระดับออกซิเจนปลายนิ้วสามารถวัดระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด (SpO2) อัตราการเต้นของหัวใจ (PR) และค่าการไหลเวียนของเลือด (PI) ได้ ระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด เป็นค่าที่บ่งชี้ประสิทธิภาพของปอด โดยค่าปกติของระดับออกซิเจนในเลือด ไม่ควรต่ำกว่า 96 เปอร์เซ็นต์ มีวิธีการใช้งานโดยเริ่มจากการกดปุ่มเปิด ที่ตัวเครื่อง จากนั้นสอดนิ้วเข้าไปในตัวเครื่อง หายใจเข้าลึก ๆ ผ่อนคลาย เครื่องจะทำการวัดค่า แล้วจะแสดงผลที่ได้บนหน้าจอเครื่อง โดยค่าตัวบนคือระดับออกซิเจนในเลือด มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ ส่วนตัวล่างคืออัตราการเต้นของหัวใจ/นาที ร่วมด้วยช่วยหาแหล่งซื้อยาและเวชภัณฑ์ https://shopee.co.th/kaideegadget?smtt=0.0.9 https://shopee.co.th/stayhealthy01 https://shopee.co.th/pleasehealth

WordPress Cookie Notice by Real Cookie Banner