SDGs
โซเชียลแชร์ภาพฟิตเนสตั้งฉากใสกั้นบนลู่วิ่ง ป้องกันโควิด-19
วันนี้ (15 พ.ค. 63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อออสเตรเลีย ได้เผยแพร่ภาพในฟิตเนส ที่มีการนำฉากใสมากั้นระหว่างลู่วิ่ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 Gym Marine ในสหรัฐฯ คือฟิตเนสที่โพสต์ภาพดังกล่าวทางอินสตาแกรม ซึ่งทำให้มีการตั้งข้อสังเกตอย่างกว้างขวางว่า นี่อาจจะเป็นหน้าตาของฟิตเนสในอนาคต ที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ หลังเผยแพร่ภาพทางอินสตาแกรม ปรากฏว่ามีคนเข้ามาแย้งว่า ภาพดังกล่าวเป็นฟิตเนสในฮ่องกง ไม่ใช่สหรัฐฯ แต่ไม่ว่าภาพนี้จะเกิดขึ้นที่ไหนในโลกนี้ก็ไม่สำคัญเท่าการที่โรคระบาดได้ส่งผลต่อไลฟ์สไตล์และการออกกำลังของมนุษย์ไปตลอดกาล การเปลี่ยนแปลงในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการออกกำลังกายอย่างใหญ่หลวง “แบร์รี เอลวิช” ซีอีโอฟิตเนส ออสเตรเลีย ซึ่งก่อนหน้านี้แสดงความเห็นขอให้รัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ กล่าวว่า ระหว่างที่ยังไม่รู้ว่าฟิตเนสจะกลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อไหร่ ทางฟิตเนสออสเตรเลียก็ทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างครอบคลุม เพื่อพัฒนากรอบการทำงาน ให้สามารถกลับมาเปิดฟิตเนสอย่างปลอดภัยอีกครั้ง ส่วนฟิตเนสอีกรายอย่าง “คลาสพาส” ในสหรัฐฯ เผยว่า รายได้ของทางฟิตเนสลดลงอย่างเห็นได้ชัดถึง 95% “ฟริทซ์ แลนแมน” ซีอีโอคลาสพาส กล่าวว่า ความท้าทายต่างๆ ที่อุตสาหกรรมออกกำลังกายกำลังเผชิญอยู่นั้นหนักหนาสาหัสกว่าใคร และส่งผลกระทบต่อสมาชิกของทางฟิตเนส เขากล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ที่อุตสาหกรรมออกกำลังกายและสุขภาพไม่เคยเจอมาก่อน ด้าน “เจมส์ แอบบูด” ผู้ช่วยผู้จัดการฟิตเนสสปีโด ฟิตเนส […]
เมื่อแบงก์ชาติออกสกุลดิจิทัล “อินทนนท์”
ถือเป็นก้าวที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของวงการการเงินประเทศไทย ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารระดับสูงขององค์กรการเงินในประเทศของเรา ที่เล็งเห็นความน่าสนใจและประสิทธิภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชน หากนำสิ่งนี้มาปรับใช้กับวงการการเงินและระบบธนาคารจะโอกาสเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมและจัดทำระบบอีกมากมาย เรียกได้ว่ามีความตื่นตัวกับกระแสโลกไม่แพ้เมืองนอก สำหรับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ นั้น ได้มีการเล็งเห็นถึงความน่าสนใจของระบบการประมวลผลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology : DLT) จึงได้มีการนำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ทำระบบการชำระเงินระหว่างธนาคาร 8 แห่ง ซึ่งโครงการนี้ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2561 โดยมีทดลองและพัฒนาระบบการชำระเงินรวมไปถึงการออกเหรียญดิจิทัลที่ใช้เฉพาะภายในสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ชื่อว่าเหรียญ CBDC (Central Bank Digital Currency) โดยโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาภายใต้ชื่อ “โครงการอินทนนท์” โดยมีหน่วยงานที่เข้าร่วม 3 หน่วยงานด้วยกัน ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง และ บริษัท R3 ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม DLT ที่ทำระบบให้ธนาคารชื่อดังหลายแห่ง จุดเริ่มต้นของโครงการอินทนนท์ มาจากระบบการทำงานของธนาคารต่างๆ ในไทยที่หากมีการโอนเงินระหว่างธนาคาร ธนาคารในเครือเหล่านี้จะไม่ได้เป็นผู้โอนเงินออกจากบัญชีต้นทางไปที่ปลายทางโดยตรง แต่ละที่จะมีบัญชีของตัวเองที่เปิดไว้ที่แบงก์ชาติอยู่แล้ว การโอนจ่ายระหว่างธนาคารจึงเป็นเหมือนการ ทำระบบสั่งจ่าย และยื่นให้แบงก์ชาติ เพื่อให้แบงก์ชาติโอนเงินในคลังให้กับปลายทางอีกที (แบงก์ชาติทำหน้าที่เป็นผู้ถือเงินสำหรับสถาบันเหล่านั้นไว้) […]
ดร. มหิศร ว่องผาติ กับภารกิจส่งหุ่นยนต์เซฟคุณหมอของ CU-RoboCovid
ที่ผ่านมาประเด็นเรื่องหุ่นยนต์และ AI จะแย่งงานมนุษย์เป็นที่ถกเถียงกันแพร่หลาย และสร้างความกังวลให้กับทุกวิชาชีพ แต่กลายเป็นว่าเมื่อทั่วโลกเผชิญกับความท้าทายรอบด้านจากโรคระบาดโควิด-19 เราได้เห็นการระดมเทคโนโลยีหุ่นยนต์ไปช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งอยู่ “ด่านหน้า” ของการปะทะกับโรคอุบัติใหม่นี้ ดร.มหิศร ว่องผาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท Obodroid และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท HG Robotics พาเราย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของโครงการ CU-RoboCovid ที่กลุ่มนิสิตเก่าและทีมวิจัยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับบริษัท HG Robotics และ Obodriod ได้ตั้งเป้าที่จะผลิตหุ่นยนต์ช่วยเหลือทางการแพทย์จำนวน 200 ตัว เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ ผ่านการเปิดรับบริจาค นับตั้งแต่วันที่ประเทศไทยยังไร้มาตรการล็อกดาวน์ จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีจำกัด จุดเริ่มต้นของโครงการ CU-RoboCovid คืออะไร โครงการนี้เริ่มต้นประมาณวันที่ 12-13 มีนาคม รุ่นพี่คณะเราเห็นตัวเลขของผู้ติดเชื้อโรคระบาดกำลังพุ่งสูงขึ้น เราทำงานเกี่ยวกับหุ่นยนต์และได้พูดคุยกับคุณหมอว่าเราจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง วันที่ 15 คุณหมอได้กรุณาให้เราไปที่โรงพยาบาล ตอนนั้นเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะพาเข้าไปในวอร์ดของผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นผู้ป่วยคนแรก ๆ ที่อยู่ในห้องแยกโรคความดันลบ (Negative Pressure Room) เราได้เห็นว่าผู้ป่วยยังช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ แต่หมอและพยาบาลที่เข้าไปตรวจจะต้องใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อ (PPE) และเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง ถ้าลืมหรือต้องการอุปกรณ์เพิ่ม […]
ดับฝัน ! “สงขลามรดกโลก” กองทัพเรือตั้งสถานีเรดาร์เขตโบราณสถานเขาแดง
วานนี้ (3 พฤษภาคม 2563) “ครูสืบ” นายสืบสกุล ศรีสุข ผู้อำนวยการภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม โพตส์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ครูสืบขออนุญาตโพสต์เรื่องสำคัญที่สุดที่มีผลกระทบต่อโบราณสถานที่เป็นหัวใจเมืองสงขลา ที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บนที่สูงที่สุด และเป็นจุดชมเมืองสงขลาเมืองสองทะเลที่สวยที่สุดของเมืองสงขลา และอาจทำให้พี่น้องทหารเรือได้ทราบเรื่องราวของความสำคัญที่จุดหัวใจเมืองสงขลาตรงนี้ แล้วเปลี่ยนความตั้งใจ ที่จะไปสร้างฐานและจอเรดาร์ (ตามหนังสือที่ทางเจ้ากรมทหารเรือได้ของพื้นที่) ที่อยู่ห่างจากเจดีย์ประวัติศาสตร์ของความเป็นชาติไทย คือ เจดีย์องค์ดำ องค์ขาว และเป็นจุดหลอมรวมของสามวัฒนธรรม ที่สวยงามที่สุดของเมืองสงขลาเมืองพหุวัฒนธรรม เพราะฐานเจดีย์คือป้อมปืนหมายเลข 10 ของเมืองสงขลาเป็นเรื่องราวของพี่น้องมุสลิมที่สร้างโดยสุลต่านสุลัยมันผู้เป็นเจ้าเมืองเมื่อกว่า 400 ปี สมัยกรุงศรีอยุธยา เจดีย์องค์ดำ องค์ขาว เป็นเรื่องราวของพี่น้องพุทธ ที่สร้างโดยเจ้าพระยาคลัง และเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์และตรงกลางเจดีย์ มีอาคารเก๋งจีน เป็นเรื่องราวของพี่น้องจีน ที่สร้างโดยเจ้าเมืองสงขลาในช่วงเวลาที่พี่น้องจีนเป็นเจ้าเมือง จึงถือเป็นจุดที่สำคัญ เป็นหนึ่งพื้นที่หลักในการนำสงขลาไปขอขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก เพราะถ้าสงขลาได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ก็จะเป็นการเชื่อมให้ผู้คนที่มาเที่ยวเมืองมรดกโลกที่ปีนังประเทศมาเลเซีย ที่มีมากถึงปีละไม่ต่ำกว่า 12 ล้านคน ได้เดินทางเข้ามาสู่ประเทศไทย มาสู่สงขลา แล้วสงขลาก็จะเป็นศูนย์กลางในการท่องเที่ยวของจังหวัดชายแดนใต้ ภาคใต้ชายแดนของเราก็จะได้รับการพัฒนาได้รวดเร็วและมากขึ้นในทุกมิติ นั่นคือฝันไกลของสงขลา แต่การที่ทางทหารเรือได้มีโครงการที่จะไปสร้างสิ่งแปลกปลอมบนพื้นที่ ที่อยู่ใกล้แหล่งโบราณสถาน คือ “ฐานและจอเรด้าร์” ที่เป็นหน่วยงานของความมั่นคง คือการดับฝันโครงการสงขลาสู่มรดกโลก ที่ถึงเวลานี้ทางยูเนสโก้ได้มีเอกสารส่งมายังจังหวัดสงขลาว่าทางยูเนสโกจะส่งบุคลากรมาช่วยดูแหล่งประวัติศาสตร์ […]
“ชุบชูใจ Push your heart up” จุฬาฯ ชวนปรับสมดุลชีวิตใหม่ในช่วงโควิด
ในภาวะวิกฤตย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ วันนี้เราจะพาไปดูตัวอย่างการปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้เข้ากับยุคโควิด-19 ที่นอกจากนิสิตนักศึกษาจะต้องเรียน ต้องสอบ กันจากบ้านแล้ว การเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านการทำโครงงาน โปรเจค รายงาน หรือเปเปอร์ในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบการเรียนในแต่ละรายวิชานาทีนี้นั้น ดูเหมือนจะเป็นสิ่งยอดฮิตที่ผู้เรียนทั้งนักเรียน นิสิต นักศึกษา จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นคงจะดีกว่าแน่หากการเรียนรู้ด้วยตนเองเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมเราในยามนี้ได้ ล่าสุด ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. สาคร สุขศรีวงศ์ หรือ อาจารย์หมี จาก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อว่า Sakorn Suksriwong ว่าได้ปรับรูปแบบการทำมอบหมายให้นิสิตทำโครงงานใหม่ โดยให้ทำอะไรก็ได้ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมในยุคนี้ จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการ “ชุบชูใจ” เป็นการสร้างสรรค์จากนิสิตคณะจิตวิทยาร่วมกับนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จัดกิจกรรมเวิร์กชอปออนไลน์ให้กับผู้ที่สนใจได้ผ่อนคลาย และสามารถจัดการความสัมพันธ์แบบ work-life balance โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Wellness form home (WFH) “Wellness from home (WFH) เป็นโครงการที่เกิดจากการรวมตัวกันของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 เพราะการที่ต้องทำงานอยู่แต่บ้านทำให้เกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจากการสำรวจความเครียดเหล่านี้มีสาเหตุมาจากการต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมเป็นเวลานาน ไม่สามารถแบ่งเวลาพักผ่อนออกจากเวลาทำงานได้อย่างชัดเจน ไม่ได้พบเจอเพื่อนฝูง […]
รอบโลก รอบรู้ สู้โควิด-19 3 พฤษภาคม 2563
ในขณะที่ทั่วโลกยังคงมียอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สะสมทะลุไปกว่า 3.3 ล้านรายแล้ว โดย 1 ใน 3 ของตัวเลขจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกา ราว 1 ล้านราย และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราได้เห็นความพยายามจากทั่วทุกมุมโลกระดมสรรพกำลังกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านสุขภาพของมวลมนุษยชาติ ผ่านการออกนโยบาย มาตรการ และแนวทางป้องกัน ควบคู่ไปกับการพัฒนาวัคซีน และนวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19 ที่หลากหลาย และเพื่อให้คนไทยได้รู้เท่าทัน “รอบโลก รอบรู้ สู้โควิด-19” จึงมีอัพเดทสถานการณ์ล่าสุดจากหลายประเทศทั่วโลกในรอบสัปดาห์มาฝากกัน สหรัฐอเมริกา ผลสำรวจจากรอยเตอร์/อิปซอส พบชาวอเมริกัน ‘เกินครึ่ง’ หมดความเชื่อถือในคำพูดของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับวิธีรับมือโรคโควิด-19 และเกือบจะทั้งหมดรับไม่ได้ที่ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาแนะนำให้ฉีด ‘สารฟอกขาว’ หรือ ‘น้ำยาฆ่าเชื้อ’ เข้าสู่ร่างกายเพื่อกำจัดไวรัส แบบสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวจัดทำขึ้นวันที่ 27-28 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่าชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ ร้อยละ 47 ตอบว่า “มีความเป็นไปได้สูง” หรือ “พอเป็นไปได้” ที่พวกเขาจะปฏิบัติตามคำแนะนำของ ทรัมป์ เกี่ยวกับวิธีจัดการไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงถึงร้อยละ 15 […]
News Update
เกาะติดสถานการณ์ COVID-19 วันที่ 25 มิ.ย. 64
วันที่ 25 มิ.ย. 64 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3,644 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรวม 236,293 ราย แบ่งเป็นกำลังรักษา 43,190 ราย หายแล้วจำนวน 193,103 ราย มีผู้รักษาหายเพิ่ม 1,751 ราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 44 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,820 ราย. ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
เกาะติดสถานการณ์ COVID-19 วันที่ 24 มิ.ย. 64
วันที่ 22 มิ.ย. 64 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4,108 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรวม 232,649 ราย แบ่งเป็นกำลังรักษา 41,297 ราย หายแล้วจำนวน 191,352 ราย มีผู้รักษาหายเพิ่ม 1,578 ราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 31 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,776 ราย. ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
เกาะติดสถานการณ์ COVID-19 วันที่ 23 มิ.ย. 64
วันที่ 23 มิ.ย. 64 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3,174 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรวม 228,541 ราย แบ่งเป็นกำลังรักษา 38,767 ราย หายแล้วจำนวน 189,774 ราย มีผู้รักษาหายเพิ่ม 1,941 ราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 51 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,745 ราย. ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
เกาะติดสถานการณ์ COVID-19 วันที่ 22 มิ.ย. 64
วันที่ 22 มิ.ย. 64 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4,059 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรวม 225,367 ราย แบ่งเป็นกำลังรักษา 37,534 ราย หายแล้วจำนวน 187,833 ราย มีผู้รักษาหายเพิ่ม 2,047 ราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 35 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,694 ราย. ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
เกาะติดสถานการณ์ COVID-19 วันที่ 21 มิ.ย. 64
ันที่ 21 มิ.ย. 64 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3,175 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรวม 221,308 ราย แบ่งเป็นกำลังรักษา 35,522 ราย หายแล้วจำนวน 185,786 ราย มีผู้รักษาหายเพิ่ม 2,030 ราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 29 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,659 ราย. ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
เกาะติดสถานการณ์ COVID-19 วันที่ 20 มิ.ย. 64
วันนที่ 20 มิ.ย. 64 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3,682 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมรวม 218,133 ราย แบ่งเป็นกำลังรักษา 34,374 ราย หายแล้วจำนวน 183,759 ราย มีผู้รักษาหายเพิ่ม 2,401 ราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 20 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,630 ราย. ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข