55673880 F383 44EB 9AA4 C17EE63E22B3

รอบโลก รอบรู้ สู้โควิด-19 3 พฤษภาคม 2563

ในขณะที่ทั่วโลกยังคงมียอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สะสมทะลุไปกว่า 3.3 ล้านรายแล้ว โดย 1 ใน 3 ของตัวเลขจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกา ราว 1 ล้านราย และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ  ทำให้เราได้เห็นความพยายามจากทั่วทุกมุมโลกระดมสรรพกำลังกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านสุขภาพของมวลมนุษยชาติ ผ่านการออกนโยบาย มาตรการ และแนวทางป้องกัน ควบคู่ไปกับการพัฒนาวัคซีน และนวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19 ที่หลากหลาย และเพื่อให้คนไทยได้รู้เท่าทัน “รอบโลก รอบรู้ สู้โควิด-19” จึงมีอัพเดทสถานการณ์ล่าสุดจากหลายประเทศทั่วโลกในรอบสัปดาห์มาฝากกัน

72D7D50A 9CF4 467A AC8F 9862E9A3A5A8

สหรัฐอเมริกา 
ผลสำรวจจากรอยเตอร์/อิปซอส พบชาวอเมริกัน ‘เกินครึ่ง’ หมดความเชื่อถือในคำพูดของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับวิธีรับมือโรคโควิด-19 และเกือบจะทั้งหมดรับไม่ได้ที่ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาแนะนำให้ฉีด ‘สารฟอกขาว’ หรือ ‘น้ำยาฆ่าเชื้อ’ เข้าสู่ร่างกายเพื่อกำจัดไวรัส แบบสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวจัดทำขึ้นวันที่ 27-28 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่าชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ ร้อยละ 47 ตอบว่า “มีความเป็นไปได้สูง” หรือ “พอเป็นไปได้” ที่พวกเขาจะปฏิบัติตามคำแนะนำของ ทรัมป์ เกี่ยวกับวิธีจัดการไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงถึงร้อยละ 15 จากการสำรวจความคิดเห็นเมื่อปลายเดือน มี.ค. มากไปกว่านั้น ชาวอเมริกันยังมีความเห็นเกือบจะเป็นเอกฉันท์ (ร้อยละ 98) ว่า พวกเขาไม่มีทางเอาสารฟอกขาว หรือน้ำยาฆ่าเชื้อมาฉีดเข้าร่างกายเพื่อทำลายเชื้อโควิด และพวกเขายอมรับว่า รู้สึกกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วสหรัฐฯ พุ่งทะลุ 1 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงถึง 58,300 คน แซงหน้าสถิติชาวอเมริกันที่เสียชีวิตใน “สงครามเวียดนาม” ไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ในสหรัฐฯ ยังออกมาประณามคำแนะนำของประธานาธิบดีทันทีเช่นเดียวกับบรรดาผู้ผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อที่เตือนชาวอเมริกันว่าอย่าได้นำสารอันตรายเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายโดยเด็ดขาด ซึ่งทางโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ทำได้เพียงออกมาแก้เกี้ยวโดยอ้างว่าที่พูดไปทั้งหมดก็เพื่อ “ประชดนักข่าว” เท่านั้น

AC86E9C6 6140 4511 9D4B 9CDB4313D1AB

สหราชอาณาจักร
สำนักข่าวเอเอ รายงานว่า นายโดมินิค ราอับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร ยืนยันในวันพุธ (29 เม.ย. 2563) ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในประเทศอยู่ที่ 26,097 ราย หลังนับรวมผู้เคราะห์ร้ายในสถานที่อื่น ๆ เช่นบ้านพักคนชราและชุมชนต่าง ๆ เข้าไปด้วยเป็นครั้งแรก จากที่ก่อนหน้านี้นับเพียงผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเท่านั้น
ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นทันที 3,811 ราย กลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะนี้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของยุโรป และอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และ อิตาลี แต่นายราอับยังย้ำว่า สถิตินี้ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่ามีการเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นผู้เสียชีวิตสะสมมาตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. – 28 เม.ย. นายราอับยังแสดงความระมัดระวังเรื่องการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เร็วเกินไป หลังจากเริ่มมีกระแสเรียกร้องจากทั้งภาคธุรกิจและภาคการเมือง โดยยกตัวอย่างประเทศเยอรมนี ที่อัตราการแพร่เชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นหลังจากเริ่มยกเลิกข้อจำกัดบางอย่างไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

71CF0852 CD3F 4CD5 BC02 5EC834FC2A85

สเปน
สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ทางการหมู่บ้านซาฮารา เด ลอส อันตูเลส จังหวัดกาดิซ เมืองรีสอร์ตชายฝั่งทางใต้ของสเปน ออกแถลงการณ์ขอโทษกรณีใช้รถแทรกเตอร์ฉีดน้ำยาฟอกขาวบนชายหาดเป็นระยะทางมากกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อป้องกันเด็กติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 1 วัน ก่อนที่สเปนอนุญาตให้เด็ก ๆ ออกจากบ้านได้เป็นครั้งแรก มาเรีย โคโลเรส อิกเลเซียส หัวหน้ากลุ่มอาสาสมัครสิ่งแวดล้อมในจังหวัดกาดิซ เยือนหาดในหมู่บ้านซาฮารา เด ลอส อันตูเลส และเห็นสภาพความเสียหายด้วยตาตัวเอง บอกว่า น้ำยาฟอกขาวกำจัดทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นดิน ไม่มีอะไรเหลือให้เห็นเลย แม้กระทั่งแมลง ทั้งที่ชายหาดและเนินทรายแห่งนี้ได้รับการคุ้มครองเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และทำรังของนกจากต่างถิ่น นอกจากนี้ รังนกอย่างน้อยหนึ่งรังที่มีไข่ถูกรถแทรกเตอร์ที่ฉีดยาฆ่าเชื้อทำลายด้วยในช่วงล็อกดาวน์ สัตว์จะเจริญเติบโตบนชายหาด และชายหาดมีวิธีการทำความสะอาดของตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปฆ่าเชื้อ ทางการท้องถิ่นไม่ฉุกคิดว่า นี่เป็นระบบนิเวศสิ่งมีชีวิต แต่คิดว่าเป็นพื้นดินขนาดใหญ่ ทางด้าน นาอากุสติน โกเนโฆ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยอมรับความผิดดังกล่าว แต่ชี้แจงว่าทำด้วยเจตนาดีที่สุดแล้ว เพื่อปกป้องเด็กที่จะมีโอกาสออกมาเที่ยวทะเลหลังล็อกดาวน์ 6 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลแคว้นอันดาลูซิอา ซึ่งปกครองจังหวัดกาดิซ กำลังพิจารณาลงโทษปรับทางการท้องถิ่นที่ฆ่าเชื้อชายหาดต่อไป

E06E4276 8EF8 4874 8E06 BAEADF1B8FB6

บราซิล
สำนักข่าวเดอะการ์เดียน รายงานในวันพุธ (29 เม.ย. 63) ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในประเทศบราซิลเพิ่มขึ้นเป็น 5,158 รายแล้ว แซงหน้าประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศแรกที่ไวรัสมรณะชนิดนี้อุบัติขึ้น ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมก็เพิ่มขึ้นเป็น 74,493 ราย ในจำนวนนี้รักษาหายแล้ว 32,544 ราย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขบราซิลยอมรับด้วยว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจมากกว่านี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสาเหตุของการเสียชีวิตอีก 1,156 ราย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเผยผลการวิจัยก่อนหน้านี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในบราซิลอาจสูงกว่าที่รัฐบาลประกาศไว้ 12-15 เท่า เพราะมีอัตราการตรวจหาเชื้อทั่วประเทศที่ต่ำ ด้านประธานาธิบดี ชาอีร์ บอลโซนาโร ซึ่งปฏิเสธอันตรายของโรคโควิด-19 มาโดยตลอด ระบุเพียงว่านี่เป็นเพียงไข้หวัดเล็กน้อย เขามีท่าทีต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาด และต้องการยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ ให้เร็วที่สุด เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาขับเคลื่อนได้อีกครั้ง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทันทีที่เขาออกมาแสดงความเห็นราวกับว่า ไม่สนใจเรื่องจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในครั้งนี้เลย

0F0E4D0A AD0D 43B3 AA4B 67F5B4A01411

บอสเนีย 
สำนักข่าวชาแนล นิวส์เอเชีย รายงานว่า ทางการบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา เปิดเผยในวันพุธ (29 เม.ย. 63) ว่า มีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 รายใหม่ กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งถึง 93 ราย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพียง 2 วัน พบผู้ติดเชื้อน้อยลงเรื่อย โดยเมื่อวันจันทร์พบ 49 ราย และในวันอังคารพบเพียง 20 ราย ทั้งนี้ สาธารณรัฐเซิร์ปสกา และ สหพันธรัฐบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา หน่วยการเมืองทั้ง 2 ส่วนที่ประกาศรวมกันเป็นประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 มาตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยใช้มาตรการต่าง ๆ รวมถึง ห้ามคนอายุมากกว่า 65 ปีกับเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ออกจากบ้านอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม สาธารณรัฐเซิร์ปสกา เริ่มอนุญาตให้ผู้สูงอายุออกจากบ้านได้เป็นเวลา 3 ชั่วโมงตั้งแต่ 27 เม.ย. และให้เปิดธุรกิจบางประเภทได้ แต่ยังคงเรียกร้องให้ประชาชนเว้นระยะห่าง และใส่หน้ากากป้องกันตลอดเวลา ซึ่งนาย อเลน เซรานิช รัฐมนตรีสาธารณสุขของสาธารณรัฐเซิร์ปสกา ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อเป็นสัญญานบ่งชี้ว่า ประชาชนเริ่มทำตามข้อควรปฏิบัติน้อยลง ขณะที่สหพันธรัฐบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ได้ประกาศยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวในเวลากลางคืนตั้งแต่ 24 เม.ย. 63 รวมทั้งคำสั่งกักตัว และอนุญาตให้ผู้สูงวัยและเด็ก ออกจากจากบ้านได้ ทุก 2 วัน วันละหลายชั่วโมง

ที่มา
https://www.worldometers.info/coronavirus/
https://www.theguardian.com/world/2020/apr/29/so-what-bolsonaro-shrugs-off-brazil-rising-coronavirus-death-toll
https://www.aa.com.tr/en/europe/uk-covid-19-death-toll-exceeds-26-000/1823441
https://www.channelnewsasia.com/news/world/bosnia-reports-sharp-rise-in-coronavirus-cases-after-relaxing-lockdown-12689364
https://apnews.com/a024a0e210daab287f83897edf10082b
https://www.bbc.com/news/world-europe-52471208
https://mgronline.com/around/detail/9630000044823

Tags:
WordPress Cookie Notice by Real Cookie Banner