Sharpen Your SDGs อแมนด้า ออบดัม
เทคนิคในการจัดการอารมณ์ จัดการกับแรงกดดันหรือว่าปลุกใจตัวเองอย่างไร ตอนอยู่บนเวที
ถ้าใครได้เห็นการประกวดจะเห็นว่าด้ามีความสุขมากแต่มันเป็นการพูดคุยกับตัวเองนะคะ เพราะว่าด้าเคยเป็นโรค Bulimia และเป็นคนหนึ่งที่เคยไม่มั่นใจในตัวเองเลย ไม่รักตัวเอง ก็คือเป็นทุกอย่าง ไม่มีความมั่นใจ คือไม่มีอะไรเลย แล้วมีอยู่วันหนึ่งเรารู้สึกว่าเราต้องเปลี่ยนคำพูดที่เราพูดกับตัวเอง นั่นคือจุดเริ่มต้น เพราะว่าเรารู้สึกว่าเราใจไม่ดีกับตัวเองเลย จะต้องแบบเฮ้ยทำไมเธอทำได้แค่นี้ ทำไมไม่ทำให้ดีกว่านี้ ผอมกว่านี้อีกสิ ทำไมไม่สวยเลย ซึ่งเราก็เริ่มเหมือนเปลี่ยนเสียงในหัวแล้วก็ใจดีกับตัวเองมากขึ้น แบบแค่นี้ไม่เป็นไรพรุ่งนี้เอาใหม่ได้ ทำให้มันเป็นเหมือน Step ที่ทำให้เราเพิ่มความมั่นใจ เริ่มรักตัวเองมากขึ้น แล้วตอนที่ด้าไปอยู่ที่นู่นเนี่ย ก็คือใช้เทคนิคนี้เลย แล้วก่อนที่จะบินไปก็บอกกับตัวเองแล้วว่าความกลัวทุกอย่างทิ้งไว้ที่ประเทศไทย พอไปถึงจะทำทุกวันให้ดีที่สุด ให้มีความสุขที่สุด เพราะเราก็ต้องอย่าลืมว่านี่คือครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราจะไม่สามารถกลับมาทำตรงนี้ได้อีก เพราะฉะนั้นต้องทำทุกวันให้ดีที่สุดเพื่อที่ในอนาคตเราจะไม่กลับมาแล้วต้องบอกตัวเองว่า ทำไมไม่ทำแบบนั้น แบบ What if ทำไมวันนั้นกลัว เพราะฉะนั้นเราก็พูดกับตัวเองว่าทำให้ดีที่สุด มีความสุขที่สุด แล้วตอนที่เราเดินออกมาบนเวทีก็ได้ยินเสียงคนตอบมือแล้วแบบ ไทยแลนด์ ไทยแลนด์ แล้วก็รู้สึกภูมิใจมากเลย มีความสุขมากที่อยู่บนเวทีตอนนั้น จริง ๆ มันไม่จำเป็นต้องกดดัน ไปทำให้ดีที่สุด
สิทธิของ LGBTQIA+ใน ศตวรรษที่ 21 ในมุมมองของอแมนด้า
ด้าคิดว่ามันมีความพัฒนามากขึ้น ด้ามองว่าความเท่าเทียมหรือ Equality มันไม่ไกลเกินเอื้อมแต่เรายังไม่ถึงตรงนั้นจริง ๆ ขนาดประเทศของเรายังไม่สามารถเปลี่ยนจากนายเป็นนางสาวได้เลย ด้าอยากจะให้เปลี่ยนได้เต็มทีแล้ว จะได้มาประกวดนางงามด้วยกัน แล้วก็บัตรทะเบียนสมรสด้วยมันยังไม่เป็นเหมือนคู่ Straight ด้าอยากจะทำให้ทุกอย่างมันเป็นปกติจริง ๆ ก็อยากจะให้ทุกคนรู้เนอะว่าเราเกิดมาเป็นมนุษย์ มันไม่มีความแตกต่าง No matter the skin, Color,Gender,Race ท้ายที่สุดแล้วเราทุกคนก็คือมนุษย์ Love is love. แล้วคนที่ด้าทำงานด้วยคุณแม่ ๆ ทั้งหลาย ก็ต้องบอกว่าพวกเขาแตกต่างเลย เขาก็คือคนในชีวิตที่สำคัญคนหนึ่ง แล้วเราก็อยากจะให้เขา ถูกปฏิบัติในสังคมอย่างเท่าเทียมที่สุด เพราะเค้าก็คือคนคนหนึ่งที่มีคุณภาพมาก แล้วหนูก็รักเค้ามาก ก็เลยอยากจะให้มีความเท่าเทียมได้แล้ว
คุณค่าสตรีในปี 2021 อแมนด้ามองควรจะเป็นอย่างไร
คุณค่าสตรีมันก็ควรที่จะเท่าเทียมได้แล้ว แต่ก็อย่างที่บอกไปมันก็ยังมีความเหลื่อมล้ำ มันยังไม่ 100% แล้วถ้าพูดถึงผู้หญิงที่ด้าชอบมาก ๆ ก็คือ Jacinda Ardern อีกคนหนึ่งก็คือ Kamala Harris คิดว่าเราอยู่ในยุคที่ดีนะคะที่มีผู้หญิงเหล่านี้เป็น Role model เพราะว่าถ้าเด็ก ๆ ผู้หญิงโตขึ้นมาพวกเขาจะได้มองว่าถ้าเราอยากเป็นผู้นำเราก็เป็นได้ ในอนาคตเราจะมีความเท่าเทียมมากกว่านี้ แต่ในตอนนี้ก็ต้องกลับมาสู้ด้วยกันต่อไป
เนื่องจากช่วงนี้ภาวะโควิดก็ค่อนข้างจะรุนแรง อแมนด้าจะอยากฝากกำลังใจอะไรบ้าง ให้กับแฟนนางงามหรือคนทั่วไปที่ต้องประสบกับสภาพสังคมในตอนนี้
ด้าอยากจะเป็นกำลังใจเล็ก ๆ กำลังใจหนึ่งให้ทุกคน ด้ารู้ว่า โควิด-19 สร้างความลำบากให้ทุกคนมาก ในฐานะที่ด้าเป็น Advocate เรื่อง Mental health ก็อยากจะบอกทุกคนว่า “ถ้าคุณรู้สึกไม่โอเค อย่าลืมว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก ยังมีอีกหลายคนที่พร้อมรับฟังและให้ความช่วยเหลือ ถ้าเกิดความเครียดอยากให้หันไปคุยกับคนในครอบครัว คนที่คุณรัก และเพื่อน ๆ ถ้าคุยแล้วยังรู้สึกไม่โอเค การไปพบแพทย์มันเป็นเรื่องที่โอเคมาก เราจะต้องเยียวยาจิตใจเราไม่ใช่แค่ภายนอกเท่านั้น แต่ต้องเยียวยาจิตใจภายในของเราด้วย” กำลังใจจาก #มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์2020 Amanda Obdam มอบให้คนไทยในสถานการณ์ปัจจุบัน
“มากกว่ารูปลักษณ์ที่สวยงามของเธอ ความงามจากมุมมองความคิดก็เป็นมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล”
พบกับบทสัมภาษณ์ของอแมนด้า #MUT2020 #MissUniverseThailand ในประเด็นสิทธิของ LGBTQIA+ สิทธิของสตรีในศตวรรษที่ 21 อนาคตในการขับเคลื่อนสังคม รวมถึง Sharpen Your SDGs เป้าหมายที่ 10 ลดความไม่เสมอภาคภายในประเทศและระหว่างประเทศ (Reduce inequality within and among countries) ที่เธอให้ความสำคัญ ได้ทาง #TheSharpenerOnline
ติดตามผลงานอแมนด้าได้ทาง https://www.facebook.com/amandaobda