เมื่อ 7 เชฟดัง รังสรรค์ 7 เมนู เพื่อคนสู้โควิดในชุมชนแออัด
เมื่อโควิด-19 ระบาดแรงระลอก 3 จนมีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศแล้ว 171,781 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 4 มิ.ย.64) โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนแออัดภายในกรุงเทพมหานครชั้นในที่มีผู้อาศัยอยู่กว่า 2 แสนราย ซึ่งแต่ละบ้านอาศัยอยู่กัน 5-9 คน ในพื้นที่จำกัด อึดอัดและคับแคบ ยากที่จะกักตัวแยกออกจากผู้อื่นตามมาตรการที่รัฐร้องขอ ส่งผลให้เชื้อโควิด-19 แพร่กระจายในครอบครัวอย่างรวดเร็วชนิดที่เรียกได้ว่าหายใจรดต้นคอติดกันทั้งตรอกซอกซอย ส่งผลให้หลายคนโดนเลิกจ้าง บรรดาพ่อค้าแม่ขายต้องปิดร้านตามประกาศของรัฐบาล เมื่อไร้งานก็ไร้เงินจนชักหน้าไม่ถึงหลัง ลำพังหากเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ คงพอจะประทังตำข้าวสารกรอกหม้อผ่านไปได้ แต่หากต้องทอดเวลาออกไปไม่รู้จบยาวนานเป็นแรมเดือน เงินเก็บย่อมร่อยหรอ กระทบเรื่องปากท้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประกอบกับชุมชนของเขาจำเป็นต้องเสียสละตนเองยอมกักตัวอยู่ในพื้นที่ไม่ออกไปเสี่ยงแพร่เชื้อภายซ้ำเติมให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปในยามนี้ เครือข่าย Food For Fighters จึงขอเปิดศูนย์บัญชาการใจกลางย่านสยามสแควร์ เยียวยาคนเมืองหลวงร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ (สนจ.) ระดมเปิดรับบริจาคอาหารกล่องจากผู้มีจิตศรัทธาในแคมเปญ “ข้าวแสนกล่อง” เพื่อจัดส่งไปยังชุมชนแออัดหลายพื้นที่เป็นประจำทุกวัน
ด้วยเหตุนี้เอง เหล่าเชฟชื่อก้องทั้ง 7 คนของเมืองไทย ได้แก่ เชฟหนุ่ม ธนินทร จันทรวรรณ Chim by Siam Wisdom , เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล ร้าน Table38 ปีกุน ข้าวซอย Hungry Rabbit และ Table 38 patisserie , เชฟส้ม จุฑามาศ เทียนแท้ ร้าน Karmakamet Conveyance และ Karmakamet Diner , คุณศรีรัตน์ ศรีภิญโญ ร้านศรีตราด , เชฟเดวิด ทอมป์สัน ร้าน Aksorn , เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ร้าน Le Du Nusara และ Baanและเชฟนิค ณัฏฐพล ภวไพบูลย์ ร้านวังหิ่งห้อย จึงได้รับโจทย์ใหญ่ให้มาขบคิดร่วมเยียวยาเรื่องปากท้องของพี่น้องในชุมชนให้พ้นทุกข์จาก “ความหิวโหย” ผ่านรายการพิเศษ “Food For Fighters : Zero Hunger ข้าวแสนกล่อง” เพื่อทำอาหารกล่องตามเมนูที่คนในหลายชุมชนร้องขอเข้ามาเพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ได้
อะไรคือแรงบันดาลใจให้เชฟเหล่านี้ต้องลุกขึ้นมาร่วมภารกิจ Food For Fighters
“ข้าวอบเผือกกับไก่ตุ๋นซีอิ๊วกับน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล”
เชฟหนุ่ม ธนินทร จันทรวรรณ : Chim by Siam Wisdom
หัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ได้กล่าวเปรียบภารกิจนี้ไว้ว่า“ผมเป็นคนที่ออกกำลังกายบ่อย เวลาไปวิ่งมาราธอน ถ้าได้น้ำสักแก้วหนึ่งเราก็จะรู้สึกชื่นใจ และยิ่งน้ำแก้วนั้นเย็นสักนิดนึง หรืออยู่ดีดีเป็นน้ำผลไม้ หรือเป็นน้ำเกลือแร่ ผมก็ยิ่งชื่นใจ ผมจึงรู้สึกว่าจากสถานการณ์แล้ว ทุก ๆ วันที่เขาต้องกักตัว เขาต้องประสบเหตุ ได้รับผลกระทบต่าง ๆ เขาคงจะกินอะไรก็ได้เพื่อให้อยู่รอด ถ้าไม่มีอะไรจะกินจริง ๆ ก็กินอาหารสำเร็จรูป แต่เราในฐานะเชฟ ในวันที่ผู้คนกำลังเหนื่อยและท้อเช่นนี้หากพวกเขาได้กินอาหารดีดี ที่ถูกปรุง ถูกคัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดี นั่นเท่ากับว่าเชฟอย่างเราได้หยิบยื่นกำลังใจที่ดีส่งไปหาเขาให้ได้รู้สึกดีขึ้นบ้าง”
“ผัดไทยไฟทะลุ”
เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล : ร้าน Table38 ปีกุน ข้าวซอย Hungry Rabbit และ Table 38 patisserie
กล่าวด้วยความมุ่งมั่นว่า“ภารกิจข้าวแสนกล่องทำให้ผมได้ทำสิ่งที่อยากทำอยู่แล้วแต่ไม่รู้จะทำได้อย่างไรให้มันเกิดขึ้นได้ ในเมื่อทุกคนก็ได้รับผลกระทบ เราเองก็ไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่เชฟทำได้คือการใช้เวลาและความรู้ ประสบการณ์ที่เรามีถ่ายทอดส่งผ่านเป็นกำลังใจลงในกล่องอาหารไปให้คนในชุมชนที่ไม่สามารถออกไปทานอาหารนอกบ้านได้ ผัดไทยของเรานอกจากความเอร็ดอร่อยแล้ว เส้นยังอยู่ได้นานแม้เวลาจะผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วก็ไม่ติดกัน เมื่อส่งไปถึงชาวบ้านเขายังจะได้ทานอาหารที่สดใหม่และมีคุณภาพ”
“ข้าวหมกไก่ น้ำพริกปลาทูและน้ำพริกกะปิ”
เชฟส้ม จุฑามาศ เทียนแท้ : ร้าน Karmakamet Conveyance และ Karmakamet Diner
กล่าวว่า “โดยปกติแล้วเชฟมักจะทำอาหารให้คนอื่นทาน ส้มเองเลยไม่ค่อยได้มีโอกาสทำอาหารให้ตัวเองทาน เวลาที่เพื่อน ๆ ของเราทำอาหารมาให้ทานเราจะมีความสุขมาก การได้ทำอาหารไปมอบให้กับผู้อื่นน่าจะเป็นโมเมนต์ที่ทำให้คนอื่นมีความสุขได้ในสถานการณ์เช่นนี้”
“ข้าวอบหมูชะมวง”
คุณศรีรัตน์ ศรีภิญโญ : ร้านศรีตราด
คุณแม่ผู้เป็นมือหนึ่งในการปรุงอาหารท้องถิ่นภาคตะวันออก กล่าวด้วยความเห็นอกเห็นใจผู้เดือดร้อนว่า “การแบ่งปันให้คนทุกข์ยากในสถานการณ์โควิด-19 ได้รับประทานอาหารอร่อยและยังเป็นอาหารท้องถิ่นจังหวัดตราด นอกจากได้ส่งต่อคุณค่าอาหารตะวันออกให้คนกรุงเทพมหานครได้ลิ้มรสแล้ว ยังทำให้ผู้ที่เดินทางจากบ้านโซนภาคตะวันออกมาทำงานในเมืองหลวงได้หวนคิดถึงบ้านเกิดของตนเองด้วยค่ะ”
“ข้าวอบกะทิและไก่ทอด”
เชฟเดวิด ทอมป์สัน : ร้าน Aksorn
ทางด้านเชฟชาวออสเตรเลีย เชฟเดวิด ทอมป์สัน ได้แสดงความคิดเห็นเป็นภาษาไทยอย่างน่าชื่นชมว่า “นี่เป็นเรื่องที่ดีที่เราได้เข้ามาช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลน รวมทั้งได้เห็นคนไทยที่รักบ้านเกิด ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผมได้เห็นคนที่กำลังยากลำบาก ได้เห็นคนว่างงานมากมาย จึงอยากทำอาหารตามที่พวกเขาอยากทาน และส่งไปให้เขาและชุมชนได้ทานกัน”
“ข้าวคลุกกระเพรา คอหมูย่าง”
เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร : ร้าน Le Du Nusara และ Baan
เชฟต้นหนึ่งในกรรมการรายการ Top Chef Thailand กล่าวว่าเต็มที่และเตรียมพร้อมในการเข้าร่วมเพราะรู้สึก“ดีใจที่ได้มาช่วยเหลือผู้คนถึงแม้วันนี้ทั้งเราและร้านอาหารต่างกำลังลำบากอยู่เช่นกัน ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อก็ยังสูงมากในหลายชุมชน เขาจึงลำบากกว่าพวกเรา รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์เขาก็ลำบากกว่าพวกเรามากหลายเท่านัก แต่เขาเหล่านั้นก็ยังสู้ สิ่งที่พวกเราทำได้ดีที่สุดคือการทำอาหาร เราจึงอยากทำในสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดแล้วแบ่งปันฝีมือของเรา ส่งเป็นใจของพวกเราผ่านอาหารที่เราทำไปให้แก่ชุมชนและบุคลากรทางการแพทย์ที่เดือดร้อนครับ”
“เบอร์เกอร์ไก่และสลัด”
เชฟนิค ณัฏฐพล ภวไพบูลย์ : ร้านวังหิ่งห้อย
ปิดท้ายการสัมภาษณ์ที่ เชฟนิคที่มักเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมหลากหลายโครงการได้เปิดใจว่า “ปกติผมทำอาหารให้กับบุคลากรทางการแพทย์ได้ทานกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสได้ทำอาหารให้คนในชุมชนที่กำลังสู้อยู่ขณะนี้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งอยากแชร์ความรู้สึกดีดีให้กำลังใจกับพวกเขา ได้เห็นถึงความตั้งใจของพวกเราทุกคนที่ครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อแข่งขันกันทำอาหาร Show off แต่เรามาเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้กำลังใจชุมชนข้ามผ่านวิกฤตไปด้วยกันให้ได้”
ติดตามรับชมภารกิจเยียวยาฝ่าวิกฤตโควิด-19 ให้ชุมชน ด้วยอาหารกล่อง 7 เมนูอร่อยล้ำจาก 7 เชฟชั้นนำระดับประเทศ ที่จะรังสรรค์เมนูสุดประทับใจ ส่งต่อความอิ่มท้องให้กับชุมชนแออัดในกรุงเทพมหานครได้ในรายการพิเศษ “Food For Fighters : Zero Hunger ข้าวแสนกล่อง” ในวันพุธที่ 9 มิถุนายนนี้ 19.00 น. เป็นต้นไป ทางเพจ Chula Alumni และ The Sharpener