คำแนะนำการใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้ว : กล่องรอดตาย
เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแก้วมีลักษณะเป็นแท่งยาวที่ประกอบด้วยก้าน และหลอดที่มีขีดสบอกตัวเลขอุณหภูมิ ภายใน เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้ว บรรจุสารปรอทเอาไว้ ซึ่งเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้วนี้จะมีคุณสมบัติที่สามารถขยายตัวได้เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อใช้วัดอุณหภูมิของร่างกาย เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้วสามารถใช้วัดอุณหภูมิร่างกายได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นที่ปาก รักแร้ หรือทวารหนัก
วิธีการใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้ว สามารถทำได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1.ทำความสะอาดเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้วด้วยสบู่และน้ำเย็นก่อนการใช้งานทุกครั้ง หรือสามารถใช้สำลีหรือผ้าก๊อซสะอาดชุบแอลกอฮอล์เช็ดให้ทั่วปรอทวัดไข้แบบแก้วแล้วล้างออก
2.ล้างมือให้สะอาดก่อนทำการวัดอุณหภูมิร่างกาย
3.เตรียมท่านั่งให้เหมาะสม ก่อนทำการวัดอุณหภูมิทางรักแร้ ควรเช็ดทำความสะอาดรักแร้ให้แห้งสะอาด และไม่มีเหงื่อเพราะอาจจะทำให้การวัดอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้วคลาดเคลื่อนได้
4.นำปลายเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้เสียบเข้าไปที่บริเวณรักแร้โดยให้อยู่บริเวณจุดกึ่งกลาง และไม่เลยออกไปทางด้านหลัง รอประมาณ 7- 10 นาที แล้วจึงนำค่าที่ได้ออกมาอ่าน โดยอ่านที่บริเวณเส้นสีเงินที่อยู่บนสุด ว่าตัวเลขอยู่ที่เท่าใด จึงจะได้ค่าอุณหภูมิร่างกายที่แม่นยำ จากนั้นนำมาเทียบกับสเกลอุณหภูมิของร่างกายเพื่อประเมินอาการไข้
อุณหภูมิ 37.6-38.3 องศาเซลเซียส มีไข้ต่ำ
อุณหภูมิ 38.4-39.4 องศาเซลเซียส มีไข้ปานกลาง
อุณหภูมิ 39.5-40.5 องศาเซลเซียส มีไข้สูง
อุณหภูมิ 40.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป มีไข้สูงมาก ต้องรีบเช็ดตัวลดอุณหภูมิและปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
5.ล้างทำความสะอาดเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ทุกครั้งหลังใช้งาน
ควรหลีกเลี่ยงการวัดไข้หลังการอาบน้ำหรือการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นค่ะ ถ้าหากมีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ให้รับประทานยาลดไข้ทันที ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้น ควรติดต่อแพทย์
อย่างไรก็ตามการใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้แบบแท่งแก้วจะต้องระวังการแตกหักและเรื่องความสะอาดของเทอร์โมมิเตอร์
ร่วมด้วยช่วยหาแหล่งซื้อยาและเวชภัณฑ์