ศึกษาธิการปั้น “ชลกร” ช่วยบริหารจัดการน้ำ
“น้ำแล้ง” อีกหนึ่งปัญหาของประเทศไทยที่ทุกรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและพยายามแก้ไขปัญหา เพราะเมื่อพื้นที่ไหนขาดแคลนน้ำล้วนก่อให้เกิดความลำบากต่อทุกส่วน โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกร การทำการเกษตรทุกรูปแบบต้องอาศัยน้ำเป็นส่วนสำคัญทั้งสิ้น
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 63 กระทรวงศึกษาธิการ “วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี” และ”คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมช.ศธ)” เปิด“โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ” ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธินโยบายสาธารณะไทยเบื้องต้น 100 ล้านบาท ในการสร้าง “ชลกร” คนรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำในชุมชนต่างๆ พร้อมทั้งสร้างโมเดลต้นเเบบการกักเก็บน้ำรองรับน้ำฝน บนพื้นที่อาชีวะเกษตรก่อนขยายผลไปยังชุมชนโดยรอบ
การขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวจะประสบความสำเร็จได้ “ชุมชนต้องมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ” โดยจะมีการสนับสนุนให้องค์ความรู้ และกระทรวงศึกษาจะใช้กลไกของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั้ง 47 แห่ง และโรงเรียนการศึกษาพิเศษอีก 176 แห่งทั่วประเทศเป็นศูนย์เรียนรู้ที่สำคัญ
ทั้งนี้หลักสูตรสร้างชลกร จะเป็นการสร้างผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ เพื่อช่วยสอนชาวบ้านให้มีความรู้เรื่องการจัดการน้ำในชุมชนด้วยตนเอง และสร้างประโยชน์จากแหล่งน้ำเพื่อชีวิตที่พอเพียง โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนให้สามารถดำเนินการต่อเองได้ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษากำลังออกแบบหลักสูตรดังกล่าว เพื่อให้แต่ละวิทยาลัยได้นำไปจัดการเรียนการสอน สร้างชลกรในสถานศึกษา
หน้าที่ของชลกรชุมชน
ชลกรชุมชน หรืออาสาสมัครคนปลูกน้ำ เป็นบุคคลต้นแบบด้านการบริหารจัดการน้ำในระดับชุมชน ที่ได้เข้ารับการถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านการบริหารจัดการน้ำตามศาสตร์พระราชาแล้วและนำองค์ความรู้ที่ได้รับกลับไปถ่ายทอดให้กับชาวบ้านและคนในชุมชน โดยเน้นการมีส่วนร่วม เน้นให้ชาวบ้านลงมือปฏิบัติเองได้ เพื่อยกระดับชุมชน ให้มีน้ำใช้ แก้แล้ง แก้จน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้อยู่ได้อย่างพอเพียงและยั่งยืน
หลักสูตรชลกร จะเป็นการจัดการเรียนการสอน การสร้างนักบริหารจัดการน้ำ ผู้เชี่ยวชาญน้ำให้เกิดเป็นรูปธรรมชัดเจน และได้ลงไปช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนของตนเอง เพราะการเรียนการสอนต้องมีการลงไปในพื้นที่ชุมชน นักชลกรต้องเป็นผู้ให้ความรู้ คำแนะนำ และช่วยจัดการแก้ปัญหาน้ำแล้ง การขาดแคลนน้ำต่างๆ ในชุมชนให้ได้
ที่มา
https://www.facebook.com/101881878253526/posts/217365746705138/?d=n
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/889122