
วิศวกรรมชีวเวช จุฬาฯ กระหึ่มโลก แปลง ‘รังไหม’ สู่นวัตกรรมช่วยคนไข้ ประกาศศักดานักวิจัยไทยในเวิลด์เอ็กซ์โป
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยอีกครั้ง หลังส่งผลิตภัณฑ์ “SilkLife” นวัตกรรมโปรตีนไฟโบรอินจากรังไหมไทย ผลงานเด่นด้านวิศวกรรมชีวเวชของ Engine Life บริษัทสปินออฟของคณะ มาจัดแสดงอวดสายตาคนนับล้านที่แวะมาอัพเดทเทรนด์โลก ณ Thailand Pavilion ในมหกรรม WORLD EXPO 2025 OSAKA ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 13 เมษายน ถึง 13 ตุลาคม 2568

WORLD EXPO ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก “Designing Future Society for Our Lives” จึงเป็นโอกาสของนานาประเทศได้อวดศักยภาพการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตมนุษย์ในอนาคต โดยประเทศไทยนำเสนอผ่านแนวคิด “Immunity” หรือ “ภูมิคุ้มกัน” และใช้สโลแกน “Thailand Connecting Lives for Greatest Happiness” เน้นนำเสนอศักยภาพด้านสุขภาพ นวัตกรรมการแพทย์ ภูมิปัญญาไทย และวัฒนธรรมอันโดดเด่นของไทยสู่เวทีโลก


ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.จุฑามาศ รัตนวราภรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช นำคณะกรรมการบริหารศูนย์วิจัยและคณะนักวิจัยไปเยี่ยมชมการจัดแสดงผลงานของ Thailand Pavilion ซึ่งมีชุดผลิตภัณฑ์นวัตกรรม “SilkLife” ผลงานเด่นจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมจัดแสดงในนิทรรศการ “100 Thai Public Health Potentials” นำเสนอผลงานวิจัย นวัตกรรมการแพทย์ เทคโนโลยีสุขภาพ การแพทย์แผนไทย สมุนไพร และบริการสุขภาพครบวงจร รวม 100 ผลงานด้วย



SilkLife คือโปรตีนไฟโบรอินความบริสุทธิ์สูงระดับมาตรฐานการแพทย์ ที่สกัดจากรังไหมไทย (Bombyx mori) ผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP และผ่านการรับรอง ISO13485 สำหรับอุปกรณ์การแพทย์ รวมถึงผ่านการทดสอบความเข้ากันได้ทางชีวภาพตามมาตรฐาน ISO10993 ได้รับการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ ร่วมมือกับกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พัฒนาการเลี้ยงไหมอินทรีย์ตามมาตรฐาน TAS 9000 และ TAS 8203 กระบวนการกลางน้ำ สกัดไฟโบรอินในห้องปลอดเชื้อ ผ่านการรับรอง ISO13485 จนถึงกระบวนการปลายน้ำที่สามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพได้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ 1) Keep On Sleep: แผ่นแปะ CBD (THC น้อยกว่า 0.20%) ช่วยการนอนหลับ 2) Office Syndrome Relief Patch: แผ่นแปะสมุนไพรบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ 3) Silk Dental Plug: วัสดุอุดฟันหลังถอนฟัน ช่วยการสร้างเนื้อเยื่อและกระดูกใหม่ 4) OA-SILK: ไฮโดรเจลฉีดเข้าข้อสำหรับผู้ป่วยข้ออักเสบ และ 5) ระบบนำส่งยา (Drug Delivery Systems) ที่สามารถควบคุมการปลดปล่อยสารออกฤทธิ์ได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยลดผลข้างเคียงจากการได้รับยาในปริมาณสูง และเพิ่มประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ของยา
รศ.ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า “การที่ผลงานวิจัยและนวัตกรรมของคนไทยได้รับการคัดเลือกให้จัดแสดงในงานระดับโลกเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักวิจัยไทยที่ไม่ด้อยไปกว่าชาติอื่น และยังตอกย้ำถึงนโยบายของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่มุ่งสนับสนุนให้ต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ผ่านบริษัท Spin-off จนสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยและสังคมโลกได้อย่างเป็นรูปธรรม การนำเสนอนวัตกรรมไทยในเวิลด์เอ็กซโป ไม่เพียงแต่สร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการแสวงหาความร่วมมือกับนักวิจัยและองค์กรจากทั่วโลก ตลอดจนการเปิดตลาดใหม่ให้ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมไทยได้อีกด้วย”
ทางด้าน รศ.ดร.จุฑามาศ รัตนวราภรณ์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช กล่าวเสริมถึงนวัตกรรมที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า “โปรตีนไฟโบรอินจากรังไหมไทยมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นวัสดุทางการแพทย์ได้หลากหลาย ทั้งในรูปแบบของไฮโดรเจลนำส่งยา แผ่นปิดแผลที่มีคุณสมบัติดูดซับของเหลวและปลดปล่อยยาฆ่าเชื้อ ตลอดจนวัสดุทดแทนกระดูกและเนื้อเยื่อ ซึ่งเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของไทย และยังสร้างทางเลือกใหม่ให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวชยังมีผลงานวิจัยอื่นที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโดยเฉพาะนวัตกรรมที่ช่วยดูแลผู้ป่วยเบาหวานนับล้าน อาทิ แพลตฟอร์ม ‘หวานน้อย’ สำหรับการป้องกัน วินิจฉัย และรักษาโรคเบาหวานแบบครบวงจร เซนเซอร์ตรวจวัดน้ำตาลในเลือดจากลมหายใจแบบไม่รุกล้ำ และแผ่นรองเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ไทยโดยคนไทยเพื่อคนทั้งโลก”



ในเวทีเวิลด์เอ็กซ์โปครั้งนี้ ยังมีนวัตกรรมการแพทย์ที่น่าสนใจจากนานาประเทศ โดยญี่ปุ่นในฐานะเจ้าภาพโชว์เหนือด้วย Osaka Healthcare Pavilion (Nest for Reborn) ที่รวบรวมเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ เซลล์ต้นกำเนิด iPS สำหรับเวชศาสตร์ฟื้นฟู, หุ่นยนต์ AI “Miraia Lynx” ตรวจวัดสุขภาพแบบไม่สัมผัส, AI Skin Analysis วิเคราะห์สุขภาพผิว 14 ประเภท, Body Measurement Pods สร้างอวาตาร์สุขภาพปี 2050 และ Human Washing Machine รุ่นใหม่ดูแลสุขภาพกายใจ PASONA NATUREVERSE Pavilion ภายใต้แนวคิด “ขอบคุณชีวิต” (Thank You, Life) นำเสนอนิทรรศการ “Tree of Life Evolution” แสดงวิวัฒนาการของชีวิต 3.8 พันล้านปี พร้อมจัดแสดง iPS Heart หัวใจจากเซลล์ต้นกำเนิดโดย Dr. Yoshiki Sawa, ห้องผ่าตัดบินได้ (Flying Operating Room), หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด และการผ่าตัดผ่านสายสวนด้วย 3D Visualization










Belgian Pavilion ในโซน “Saving Lives” ภายใต้ธีม “Human Regeneration” โชว์ศักยภาพการเป็นศูนย์กลางวัคซีนโลกของเบลเยียม ที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Janssen, GSK และ Pfizer ตั้งฐานการผลิต พร้อมนำเสนอนวัตกรรมจาก 3 ภูมิภาค ได้แก่ Flanders จัดแสดง “Circle of Life” เทคโนโลยีดูแลสุขภาพตลอดช่วงชีวิต, Brussels โชว์ขาเทียมอัจฉริยะจาก Axiles Bionics และ Wallonia นำเสนอ “Digital Twins” แบบจำลองผู้ป่วยเสมือนจริงเพื่อการรักษาเฉพาะบุคคล โดยมีมาสคอต “BeluBelu” เซลล์จำลองเป็นสัญลักษณ์การฟื้นฟูชีวิต ส่วน Tech World Pavilion จากไต้หวัน ใช้ AI-powered Bracelet สายรัดข้อมืออัจฉริยะตรวจวัดชีพจรเพื่อวิเคราะห์อารมณ์ผู้เข้าชมขณะเดินชมนิทรรศการ



สำหรับ Thailand Pavilion นอกจาก SilkLife แล้ว ยังมีนวัตกรรมเด่นจากสตาร์ทอัพจุฬาฯ อีก 3 ผลงานร่วมจัดแสดง ได้แก่ Meticuly กระโหลกไทเทเนียม 3D Printing เฉพาะบุคคลที่ได้รับรองมาตรฐาน FDA สหรัฐฯ และรางวัล WIPO Global Award, MUTA เท้าเทียมพลวัตสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์และ 3D Printing ได้มาตรฐาน ISO และผ่านการทดลองทางคลินิก และ COVIDTRAP สเปรย์พ่นจมูกป้องกันโควิด-19 ที่มีโมโนโคลนอลแอนติบอดี้มนุษย์ได้รับรองจาก อย. ไทย

สำหรับผู้ที่สนใจเทรนด์สุขภาพและนวัตกรรมการแพทย์ระดับโลก อย่าพลาดโอกาสเข้าเยี่ยมชมงาน World Expo 2025 Osaka วันนี้ ถึง 13 ตุลาคม 2568 ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่าลืมแวะเยี่ยมชม Thailand Pavilion ในพื้นที่ A13 โซน Connecting Lives เพื่อชมนวัตกรรมสุขภาพของไทยที่ก้าวไกลไม่แพ้ชาติใดในโลก และร่วมภาคภูมิใจไปกับผลงานของนักวิจัยไทย ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรเข้างานได้ที่ www.expo2025.or.jp










1. นายอธิศีล ธัญญ์ ณ ป้อมเพชร
2. รศ. ดร.จุฑามาศ รัตนวราภรณ์
3. ผศ.ดร.สุพรรษา ยอดเมือง
4. ผศ.ดร.ศรัณย์ กีรติหัตถยากร
5. รศ.ดร.จรัสรัก วิภาวกิจ

1. รศ.ดร.จรัสรัก วิภาวกิจ ผู้ช่วยคณบดี
2. รศ.ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดี
3. รศ.ดร.เสวกชัย ตั้งอร่ามวงศ์ รองคณบดี

