Ibis Hotel จัดบริการพิเศษ – ‘พี่เลี้ยงโซเชียล’ สร้าง Experience
เดี๋ยวนี้เวลาไปเที่ยว มีรูปให้ลงกันเยอะแค่ไหนคะ? เชื่อว่าไม่ต่ำว่า 10 รูปแน่ๆ ไหนจะรูปวิว รูปตัวเอง รูปอาหารอีกใช่ไหมคะ เพราะวันนี้ใครๆ ก็หันมาอยู่บนโลก Social กันทั้งนั้นนี่เนอะ จะไม่ให้ถ่ายรูปลงได้ยังไงไหว โรงแรม Ibis Switzerland เขาเข้าใจ เลยจัดหาบริการ ‘พี่เลี้ยงโซเชียล’ มาให้แบบฟรีๆ เพียงคุณจองที่พักกับ Ibis Hotel เท่านั้นค่ะ
พี่เลี้ยงโซเชียล หรือบริการ ‘Relax We Post’ ก็คือบริการที่พนักงานของ Ibis จะจัดการหามุมที่แสนเพอร์เฟ็ค ถ่ายรูปสวยๆ แล้วลงรูป ลง Story พร้อมเขียนแคปชั่น ตลอดจนถึงตอบเม้นต์ของทุกคนที่เข้ามา comment รูปของคุณให้ด้วยค่ะ ถ้ามีพนักงานทำหน้าที่นี้ให้ แล้วเราต้องทำอะไร? นี่เลยค่ะ แค่สนุกหรือ Enjoy กับสถานที่และวันหยุดของคุณให้มากที่สุด แค่นั้นที่โรงแรมอยากให้คุณได้กลับบ้านไป
แคมเปญนี้เริ่มจาก Insight ที่บอกว่า นักท่องเที่ยวมักเลือกจุดหมายปลายทางที่มีอะไรดีๆ น่าสนใจเหมาะกับการถ่ายรูป หรือที่เรียกว่า Instagrammable Destination แต่การที่สถานที่ต่างๆ จะถูกจัดว่าเป็น Instagrammable หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับรูปจากนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ บน IG ด้วยกัน ว่าสวยตรงใจหรือเปล่า เรียกง่ายๆ ก็คือ User-generated photos เป็นตัวตัดสินว่าจะบินไปไหน ไม่บินไปไหนค่ะ
โดย Insight นี้พบว่า สถานที่ที่ถูกจัดว่าเป็น Instagrammable จะมีเรท Conversion สูงขึ้น 4.5% ถ้านักท่องเที่ยวได้เห็นรูปสวยๆ ของคนอื่นๆ บนโซเชียล และเรท Conversion จะเพิ่มขึ้น 9.6% ถ้านักท่องเที่ยวมี engagement กับรูปของคนอื่นๆ บนโซเชียลในช่วงตัดสินใจว่าจะไปไหนดี
และสิ่งที่ Ibis ต้องการมากที่สุดก็คือ อยากสร้าง Experience ดีๆ ให้ลูกค้าได้พักผ่อนกับวันหยุดของตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่ต้องห่วงหรือคอยพะว้าพะวงกับการถ่ายรูปมากนัก แหม… นี่มันตอบโจทย์ความต้องการจริงๆ นะคะเนี่ย
ซึ่งบริการ Relax We Post นั้นก็ไม่ใช่ว่าจะให้พนักงาน Lobby หรือพนักงานยกกระเป๋ามาทำนะคะ เพราะโรงแรมได้ร่วมมือกับ Local Influencers ชื่อดังทั้งหมด 10 คน อย่าง Anna Maradan / Cristina Gheiceanu / Pascal Erb และ Elay Leuthold ที่เชี่ยวชาญการถ่ายภาพในมุมต่างๆ กันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสายท่องเที่ยวเน้นรูปวิว สายบิวตี้เน้นรูป Portrait หรือสายไลฟ์สไตล์เน้นรูปอาหารกิจกรรมต่างๆ เอาแบบให้คุณมั่นใจได้เลยว่า รูปคุณจะสวยเหมือน Blogger ดังๆ เหล่านี้ไม่ผิดเพี้ยน ก็เจ้าตัวเค้ามาถ่ายให้เองเลยนี่นา ฟังแล้วเพลินยังอยากลองเลยนะคะ จะเป็นยังไงถ้าคนดังมาช่วยบริหารโซเชียลให้เรา เผลอๆ เราอาจจะดังแบบเค้าเพียงข้ามคืนก็ได้นะ
ขั้นตอนก็ง่ายมากๆ ค่ะ เพียงคุณให้ Account ของคุณกับเหล่า Blogger และบอกโทนภาพที่ต้องการ เช่น สีที่กำลังคุมโทนอยู่บน IG รวมไปถึงความสนใจที่ชอบหรือภาพที่อยากได้ แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ เหล่าทีมงานก็จะดำเนินการถ่ายรูปและลงให้เลย แต่มีข้อแม้นิดเดียวคือ รูปของคุณจะถูกติด Hashtag ว่า #postedbysocialmediasitter ค่ะ เหมือนมีแอดมินมาดูแลบัญชี IG ให้เด๊ะๆ
ซึ่งบริการพี่เลี้ยงโซเชียลหรือ Relax We Post จาก Ibis ก็มีให้กับลูกค้าทุกคนที่เข้าพักในช่วงแคมเปญที่ผ่านมา โดยมีให้บริการเฉพาะสาขาประเทศ Switzerland เมือง Zurich หรือ Geneva เท่านั้น ถ้าไปเที่ยวแล้วเจอบริการแบบนี้ คงฟินน่าดู เหมือนพกช่างกล้องที่ไม่ใช่แฟนหรือแม่ไปด้วย
นอกจากโรงแรมไอบิส ที่ประเทศ Switzerland แล้ว ยังมีอีกหนึ่งโรงแรมที่จัดบริการคล้ายๆ กันนี้ไปก่อนหน้าไอบิสด้วย ก็คือโรงแรม Conrad Maldives Rangali Island ที่ Maldives ค่ะ โดยบริการนี้เรียกว่า ‘Instagram Butler’ แต่ผู้ช่วยถ่ายรูปของที่นี่ ก็จะออกแนวๆ ช่างกล้องส่วนตัวมากกว่า เพราะจะช่วยไกด์ท่าโพสต์ มุมกล้องอะไรไปด้วย แถมยังพาทัวร์รอบเกาะ จุดไหนที่เป็น Instagram Shots สถานที่ในฝันที่คนถ่ายๆ กัน Butler เค้าก็จัดให้ครบ เอาเป็นว่าเชื่อมือเถอะ คนรู้มุมที่อยู่มานาน อยู่ตรงนี้กับคุณแล้ว
เป็นยังไงคะ นัก Content ทั้งหลาย อ่านจบแล้วรู้สึกว่าบริการพี่เลี้ยงโซเชียลเป็นอย่างไรบ้าง? จริงๆ เพลินได้ลอง Scroll ดูรูปบน Instagram ผ่าน Hashtag มาบ้าง แต่พบว่ามีน้อยมาก เลยลองนำ Caption และ Comment จากภาพที่เจอไป Translate แปลความความหมายเพื่อดู Feedback สรุปว่า มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปหลายๆ คน ไม่ค่อยพอใจกับนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการนี้เท่าไรนัก เพราะว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง และรู้สึกว่ามันไม่จริง อารมณ์คุณหลอกดาว และฉันอยากเลิกติดตามคุณ
กลับกันค่ะ พอลองเล่าเรื่องบริการนี้ให้เพื่อนคนไทยฟัง กลับตื่นเต้นดี๊ด๊ากันทุกคน แหม.. อะไรก็ตาม มีหัวก็ต้องมีก้อยเนอะ ก็คงต้องหา Target ที่ชอบให้เจอค่ะ ส่วนใครที่กำลังทำกิจการ การตลาดต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยว ก็อย่าลืมเอา Insight นี้ไปพิจารณาดูนะคะ เพราะรูปถ่าย Content เนี่ย ไม่ได้มีดีแค่เอาไว้อวด แต่หลังอวดจะมีลูกค้าตามมาอีกมากมายเลย แต่ถ้าไม่อยากเสี่ยงกับบริการที่คนอาจจะรู้สึกว่ามันเฟค ก็ลองปรับลงมาเหลือแค่ Photographer ประจำโรงแรม ก็น่าจะเป็นอะไรที่ไม่เลวเลย หรือคิดว่าอย่างไรกันบ้าง แชร์ความเห็นมาได้เลยค่ะ
ที่มา : https://qz.com/1475378/swiss-hotels-are-hiring-instagram-sitters-to-post-photos-for-you/?utm_source=email&utm_medium=daily-brief
https://www.everydaymarketing.co/business/travel-business/ibis-hotel-social-media-sitter-relax-we-post-service/
Related Posts
ถอดรหัส Skincare 101: ความลับจากข้างกล่องที่คุณ (อาจ) ไม่เคยรู้
หากพูดถึงเครื่องสำอาง แน่นอนว่าทุกวันนี้คงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศใดหรือวัยใดก็ตาม โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอางที่ใช้บำรุงผิว หรือที่เรียกันทั่วไปว่า สกินแคร์ (Skincare) ซึ่งในปี 2019 ที่ผ่านมา ก่อนที่เราจะเจอปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น โดยเฉพาะในประเทศไทยของเรา Euromonitor International เปิดเผยว่า มีมูลค่าการตลาดของสกินแคร์สูงถึง 7.1 หมื่นล้านบาท และยังมีอัตราการเติบโตของตลาดประมาณ 9% ต่อปี จากมูลค่าการตลาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากรของประเทศ ค่าใช้จ่ายในการซื้อสกินแคร์โดยเฉลี่ยต่อคนจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว ดังนั้นในมูลค่าที่สูงขนาดนี้ การเลือกซื้อสกินแคร์สักชิ้นคงจะไม่ใช่เรื่องเล็กของใครหลายคนเป็นแน่ ไม่ใช่แค่เพียงราคาที่ต้องจ่าย แต่ว่าผลลัพธ์ที่เราคาดหวังก็คงจะไม่น้อยไปกว่าราคาเช่นกัน ซึ่งการเลือกสกินแคร์สักชิ้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนอาจเลือกที่จะไปหาข้อมูลจาก Beauty Blogger หรืออ่านรีวิวต่าง ๆ จากช่องทางออนไลน์ บางคนก็เดินดูตามห้างสรรพสินค้า หรือเคาน์เตอร์ร้านค้าเลย ซึ่งบางครั้งอาจจะได้สกินแคร์กลับมาใช้แล้วถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง แต่จริง ๆ แล้วข้อมูลของผลิตภัณฑ์สกินแคร์นั้นแทบไม่ต้องไปหาจากที่ไหนไกลเลย มันถูกเขียนไว้หมดแล้วที่ข้างกล่อง หรือที่เรียกกันว่า บรรจุภัณฑ์ นี่เอง แค่อาจจะต้องมาถอดรหัส ไขข้อมูลกันหน่อยว่า มีสารอะไรบ้างที่ประกอบอยู่ในผลิตภัณฑ์ตัวนั้น ผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์ มักมีลักษณะเนื้อของผลิตภัณฑ์หลัก ๆ […]
จาก ทส. ยกกำลัง 2 + 4 สู่ยุค New Normal ทส. ยกกำลังเอ็กซ์
เมื่อช่วงต้นปีงบประมาณ 2564 ที่ผ่านมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เคยให้แนวทางการทำงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในปีนี้ไว้ว่า ให้ทำงานแบบ “ทส. ยกกำลัง 2 + 4” “ยกกำลัง 2” คือ คนทำงานต้องยกระดับการทำงาน ความกระตือรือร้น จิตใจในการทำงาน จะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อให้การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเกิดผลลัพธ์เป็นทวีคูณ ต้องห้ามหย่อนยานกับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ แล้วเสริมพลังด้วย “บวก 4” คือ หนึ่ง ทำงานโดยเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สืบสานงานอนุรักษ์ที่พระองค์ทรงทำไว้ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี สอง การทำงานต้องมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ดังที่เน้นย้ำมาเสมอว่า การทำงานแบบต่างคนต่างทำ ภาครัฐและประชาชนไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีได้ สาม ต้องทำงานแบบมีความรู้เชิงวิชาการ เพราะความรู้คือรากฐานของพลังในการสร้างสรรค์ทุกสิ่งอย่าง การทำงานแบบไม่มีความรู้ใหม่ ๆ ที่เท่าทันโลก อาจยากที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และสี่ ต้องทำงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล ต้องโปร่งใส ยุติธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติทั้งหมดโดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง “การทำงานแบบ ยกกำลัง 2 + […]
VOLVO ประกาศ ปี2040 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือ 0
วอลโว่ คาร์ ประกาศแผนการดำเนินงานครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ เดินหน้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวงจรชีวิตของรถยนต์วอลโว่ให้ได้ 40% ในช่วงปี ค.ศ. 2018 – 2025 ถือเป็นการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมครั้งแรกของวอลโว่ เพื่อเป็นบริษัทที่ี่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Climate-Neutral Company) ภายในปี ค.ศ. 2040 แผนครั้งนี้ระบุถึงการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมซึ่งสอดคล้องกับข้อตกลงร่วมกับปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกปี ค.ศ. 2015 ซึ่งนับเป็นความพยายามในการจำกัดภาวะโลกร้อนไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสจากระดับอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรม (Pre-Industrial Level) เป้าหมายในปี ค.ศ. 2040 ของวอลโว่ก้าวไปไกลกว่าการแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซจากท่อไอเสียรถยนต์ผ่านการใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นศาสตร์ที่วอลโว่มีความเชี่ยวชาญในระดับแถวหน้าของโลก หากแผนการดำเนินงานครั้งนี้ยังมุ่งแก้ไขปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในเครือข่ายการผลิต การดำเนินงานห่วงโซ่อุปทาน และผ่านการรีไซเคิลและการนำวัสดุกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานระยะสั้นเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในปี ค.ศ. 2040 วอลโว่ คาร์ ได้เปลี่ยนมาใช้มาตรการที่ท้าทายอย่างทันท่วงทีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวงจรชีวิตหรือคาร์บอนฟุตพริ้นต์ของรถยนต์วอลโว่ให้ได้ 40% ในระหว่างปี ค.ศ. 2018 – 2025 ซึ่งในกรอบเวลานี้ บริษัทยังตั้งเป้าหมายให้เครือข่ายการผลิตทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ด้วยเช่นกัน “เรากำลังเปลี่ยนแปลงบริษัทของเราด้วยแผนการดำเนินที่เป็นรูปธรรม มิใช่แค่คำมั่นสัญญา” มร. ฮาคาน ซามูเอลส์สัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร วอลโว่ คาร์ […]